12 มกราคม พ.ศ. 2565
เรามักจะเคยได้ยินสำนวนที่บอกว่า "ความรักทำให้คนตาบอด" เป็นสำนวนที่ไม่ได้เวอร์เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ความรักนั้นมีพลังที่รุนแรง มากพอที่จะเปลี่ยนเหตุการณ์หลายๆ อย่างให้พลิกจากร้ายกลายเป็นดี (เหมือนกับที่นาร์ซิสซาช่วยแฮร์รี่ เพราะความรักลูก) แต่ควีนนี่คือภาพสะท้อนอีกด้านหนึ่งของอานุภาพแห่งความรักที่อาจทำให้คนๆ หนึ่งถูกล่อลวงไปสู่ความชั่วร้ายแทน
ผมเชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันว่าควีนนี่นั้นรักเจคอบจริงๆ แต่เธอนั้นใส่ซื่อ อ่อนต่อโลกและไม่ใช่คนที่คิดอะไรอย่างรอบคอบ (ตรงข้ามกับทีน่าอย่างสิ้นเชิง) เธอรู้แค่ว่าเจคอบทำให้เธอมีความสุข ดังนั้นเธอจึงอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขา แต่กฏหมายของมาคูซา เธอไม่สามารถแต่งงานกับเจคอบซึ่งเป็นมักเกิ้ลได้
เจคอบเห็นสิ่งที่มาคูซาทำกับนิวท์และทีน่า เขาตระหนักว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทุกคนต้องเคารพกฏ เขาเข้าใจความจริงข้อนี้ และยอมรับว่าเขากับควีนนี่นั้นไม่มีทางแต่งงานกันได้ ถ้าหากดึงดันไปอาจทำให้ควีนนี่ถูกจับขังหรือประหารชีวิตได้ เขาเองก็รักควีนนี่ แต่เขาคิดว่าหนทางนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว
แต่ควีนนี่กลับไม่คิดแบบนั้น
เธอไม่เข้าใจในจุดยืนของเจคอบ และด้วยพลังอ่านใจที่เธอมี แม้เจคอบจะพยายามปิดบังความคิดของเขายังไงควีนนี่ก็มองทะลุเห็นจนหมดเปลือก - จริงๆ แล้วผมว่าพลังนี้มีข้อเสียเยอะเหมือนกันนะ คุณลองคิดภาพสิว่าคุณอยากรู้ความคิดของแฟนหรือของคู่ชีวิตคุณตลอดเวลาไหม คนเราย่อมมีบางอย่างที่อยากจะเก็บซ่อนไว้ในใจกันทั้งนั้น แม้แต่กับคนที่สนิทที่สุดก็ตาม - ความสามารถที่เธอมีกลายเป็นว่าตอนนี้ได้กลับมาทิ่มแทงความรู้สึกของเธอ จนทำให้ความมั่นคงในจิตใจอ่อนแอ
และนำไปสู่การวางยาเสน่ห์ใส่เจคอบ..
เธอพาเขามาอังกฤษ คาดหวังว่านิวท์จะเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ แต่ก็อย่างที่เราเห็น นิวท์พยายามดึงสติเธอพร้อมกับถอนยาเสน่ห์ให้เจคอบ - แต่ถ้าคิดในมุมผม ผมเข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำลงไป จริงๆ ทั้งสองนั้นรักกัน เห็นได้จากตอนที่นิวท์ถอนยาเสน่ห์ไปแล้ว เจคอบไม่ได้ต่อว่าหรือโกรธเคืองควีนนี่ เขาพยายามจะอธิบายและพูดคุยกับเธอ มันสื่อให้เห็นว่าเจคอบนั้นยังไงก็ยังรักควีนนี่อยู่ดี
แต่ก็อย่างที่เรารู้ พวกเขาลงเอยด้วยการทะเลาะกัน
ควีนนี่หนีไปฝรั่งเศสพร้อมความรู้สึกที่แตกสลาย เธอยอมรับความจริงไม่ได้ที่อาจจะต้องสูญเสียเจคอบไป และอาจรวมไปถึงความจริงที่ว่าตอนนี้คนใกล้ๆ ตัวเธอ - ทั้งทีน่า และนิวท์ (ซึ่งเธอคงหวังให้เขาเป็นที่พึ่งสุดท้าย ที่จะเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ) - และแม้แต่เจคอบ ทุกคนล้วน "ไม่มีทางเลือกให้กับเธอเลย" จึงยิ่งทำให้จิตใจของควีนนี่อ่อนแอและเปราะบางอย่างหนัก
แล้วกรินเดลวัลด์ก็เข้ามา พร้อมกับใช้วาทะศิลป์กับเธอ อย่างคำว่า “อิสระที่จะรัก”
ควีนนี่ไม่ใช่คนที่คิดอะไรอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนอยู่แล้ว การมาของกรินเดลวัลด์จึงไปเปิดแผลในใจของเธออย่างจัง
ในการปราศรัยที่สุสานแปรลาแชส ไม่เพียงแค่วาทะศิลป์ของกรินเดลวัลด์ระหว่างการชุมนุมเท่านั้น การมาของกลุ่มมือปราบมารและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนชักนำให้ควีนนี่เห็นคล้อยไปกับกรินเดลวัลด์ จนไม่สำคัญอีกแล้วว่าสิ่งที่กรินเดลวัลด์พูดนั้นจะจริงหรือไม่จริง จะถูกหรือไม่ถูก แต่สำหรับควีนนี่กรินเดลวัลด์กลายเป็น “คำตอบและความหวังเดียวที่เธอมี”
มีแฟนหลายคนตั้งสมมุติฐานว่าควีนนี่โดนคำสาปสะกดใจ หรืออาจเป็นเพราะกรินเดลวัลด์อาจจะแอบใส่น้ำยาอะไรบางอย่างลงไปในน้ำชาที่โรซิเออร์เสริ์ฟให้ควีนนี่
แต่ผมคิดว่าไม่ใช่
เพราะกรินเดลวัลด์นั้นต่างกับโวลเดอมอร์ เขาเป็นจอมวาทะศิลป์ เขาเลือกที่จะพูดเชิญชวนให้คนคล้อยตามกับความคิดและวาทกรรมของตนเอง มากกว่าจะใช้การบังคับ ฝืนใจหรือความกลัวอย่างโวลเดอมอร์ แน่นอนว่าวิธีการแบบนี้มันเรียกคนเข้าเป็นพวกได้ดีกว่ามาก
จึงไม่แปลกที่ควีนนี่จะหลงกลและเข้าร่วมกับเขาได้ง่ายๆ
เรียบเรียงบทความโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง