หนึ่งในกติกาที่เก่าแก่ที่สุดของการแข่งควิดดิชได้ถูกละเมิดในการแข่งครั้งนี้ ระหว่างเฮติกับบราซิล ส่งผลให้เกิดการปรับแพ้ฟาล์วเป็นครั้งแรกในรอบทัวร์นาเม้นท์นี้ เลนาล์ พาไรซัน คีปเปอร์ของเฮติ (หนึ่งในสามคีปเปอร์หญิงที่เข้าร่วมการแข่งเวิลด์คัพในปีนี้) ถูกกดดันให้ต้องปรับเปลี่ยนการตั้งเกมรับหลายต่อหลายครั้งในช่วงการแข่งชั่วโมงแรกจากเกมรุกของเหล่าเชสเซอร์จากบราซิลทั้งสามคนอย่าง ดิแอซ อลอนโซและฟลอเรส พวกเขาโหมกระหน่ำโจมตีเธอกว่าสามสิบครั้ง แต่ก็ทำแต้มไปได้เพียงแค่สิบแต้มเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการรักษาห่วงประตูอันเข้มแข็งของพาไรซันได้เป็นอย่างดี จมูกของเธอหักถึงสองครั้งในช่วงหกสิบนาทีแรก ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของ จีน-บาตทิสซี บลองคอร์ต บีตเตอร์เพื่อนร่วมทีมที่หวดลูกบลัดเจอร์พลาดมาทางเธอพอดี

อีกฝากหนึ่งของสนาม เคลวิอุส ฮิปโปลิต เชสเซอร์ดาวเด่นของทีมเฮติทำแต้มให้กับทีมถึงแปดแต้มจากการทำแต้มทั้งหมดเก้าครั้ง ในชั่วโมงที่สี่ทีมบราซิลมีคะแนนนำอยู่เพียงเล็กน้อยและหลายคนต่างรู้สึกว่าฝั่งทีมเฮติน่าจะตีแต้มขึ้นมาเสมอกับทีมบราซิลได้ไม่ยาก และตอนนั้นเองที่บลองคอร์ตตีลูกบลัดเจอร์พลาดเป็นครั้งที่สองและมันพลาดอย่างร้ายแรง ทำให้ ซิลเวียน โจลิคัวร์ ซีกเกอร์ของเฮติซึ่งอยู่ห่างลูกสนิชเพียงไม่กี่นิ้วโดนน็อกหมดสติทันที หลังจากที่บลัดเจอร์ซี่งถูกตีอย่างไม่ตั้งใจพุ่งตรงเข้าใส่เธออย่างจัง จากนั้นลูกสนิชได้บินพุ่งเข้าไปในแขนเสื้อของบลองคอร์ต – เหตุการณ์ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดเรื่องในลักษณะนี้ขึ้นมาก่อน – “ซีกเกอร์เท่านั้นที่สามารถจับลูกสนิชได้ หากผู้เล่นคนอื่นๆ จับลูกสนิช จะส่งผลให้ทีมถูกปรับแพ้ฟาล์วทันที” เป็นกฎที่แม้แต่นักเรียนชายหรือหญิงที่เล่นควิดดิชต่างก็รู้จักดี แต่บลองคอร์ตเหมือนจะลืมกฎข้อนี้ไปชั่วขณะ เขาล้วงเข้าไปในแขนเสื้อเพื่อจับลูกสนิชและชูมันขึ้นอย่างดีใจ เขาคงคิดว่ามันจะชดเชยความผิดพลาดที่เขาได้ทำลงไปและนั่นก็ทำให้ทีมเฮติถูกปรับแพ้ฟาล์วทันที

โจลิคัวร์ ซีกเกอร์ของเฮติกำลังอยู่ในช่วงพักรักษาตัวซึ่งกำลังเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนบีตเตอร์บลองคอร์ต ตอนนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งไม่มีใครทราบว่าเป็นที่ใด

บราซิลจะพบกับผู้ชนะในการแข่งระหว่างเวลส์กับเยอรมนี