การแข่งขันรอบสี่ทีมสุดท้ายนัดแรกของเวิลด์คัพปีนี้กลายเป็นที่จดจำในฐานะเกมที่มีการตอบโต้กันอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งเริ่มต้นจากความเขม่นใส่กันและจบลงด้วยการวิวาทจนถึงขั้นที่ผู้จัดการทีมเวลส์ เกว็นน็อก โจนส์ ถูกบีตเตอร์ลูกทีมของตัวเองลากตัวออกไปนอกสนามเพื่อตั้งสติ
ความบาดหมางระหว่างบราซิลและเวลส์ก่อตัวขึ้นตั้งแต่วันแรกๆ ของการแข่งขัน เมื่อผู้จัดการทีมบราซิล โฮเซ่ บาร์โบซา พูดจาสบประมาทกลุ่มเชสเซอร์ทีมเวลส์ว่า ‘พวกแม่มดเฒ่าไร้พรสวรรค์’ หลังจากที่เขาดื่มไปได้ไม่กี่แก้วกับผู้สื่อข่าวปากเปราะ ริต้า สกีตเตอร์ แม้เขาจะยืนยันในภายหลังว่าเขาแค่พูดหยอกเล่น ก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้จัดการทีมเวลส์ เกว็นน็อก โจนส์ หยุดที่จะเลิกขู่ ‘สาปอัดหน้า’ ใส่เขาแต่อย่างใด แม้คณะกรรมาธิการกีฬาควิดดิชแห่งสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติ จะมีมาตรการสั่งห้ามเรื่อง ‘การคุยโวโอ้อวดของผู้จัดการ - มาตรการที่หลายคนเชื่อว่าเพิ่งมีขึ้น เพราะเกว็นน็อกเป็นคนจุดประเด็น - โจนส์ก็ไม่ละเว้นโอกาสที่จะคอยพูดจาดูถูกเหยียดหยามทีมบราซิลอยู่เรื่อยมา ตั้งแต่รู้ว่าทีมของเธอจะได้พบกับพวกเขาในรอบสี่ทีมสุดท้าย นอกจากนี้เธอยังถูกสกัดไม่ให้เข้าสนามกีฬา เพราะใส่เสื้อที่สกรีนด้วยประโยค ‘ควรจะเป็นทีมเฮติหรอกย่ะ’ (บราซิลผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศจากการที่เฮติ คู่แข่งถูกปรับแพ้) ส่งผลให้เธอพลาดชมช่วงสิบนาทีแรกของการแข่งขัน ซึ่งเป็นการเล่นที่ป่าเถื่อนอันดุเดือดและมาพร้อมด้วยการทำฟาวล์อย่างรุนแรงถึงสามครั้ง
กลุ่มเชสเซอร์ของบราซิล ดิแอซ, อลอนโซและฟลอเรส ได้แสดงศักยภาพการเล่นอย่างแข็งขันจนสมควรได้รับคำแนะนำให้คอยระวังศีรษะของพวกเขาเสียบ้าง เพราะเกรงว่าพวกเขาจะเสียศีรษะไปจริงๆ แต่ในกรณีของคีปเปอร์ทีมบราซิล ราอูล อัลเมด้า อาจกล่าวได้ว่าเกือบจะเป็นแบบนั้นเสียแล้ว เพราะความร้ายกาจของลูกบลัดเจอร์ที่ส่งตรงมาจากเอฟาน ไรส์ บีตเตอร์ของเวลส์ (ลูกควัฟเฟิลอยู่ที่อีกสุดปลายสนาม ณ ขณะนั้น) ทำให้บราซิลได้รับลูกโทษและเป็นที่ถกเถียงกันว่าไรส์ควรถูกไล่ออกจากสนาม
อย่างไรก็ตาม การเล่นของเวลส์ไม่ถือว่าฟาวล์ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ไม่เห็นว่าการทำคะแนนของแจ็คกี้ เจอนิแกน เชสเซอร์ของเวลส์ด้วยการโยนควัฟเฟิลเข้าประตูจากระยะไกลห้าสิบหลานั้นน่าทึ่งอย่างที่สุด ในขณะที่บีตเตอร์ดาร์เรน ฟลอยด์ ก็สามารถป้องกันการทำประตูของทีมบราซิลไปได้อย่างน้อยถึงสิบเจ็ดครั้งเพียงด้วยมือข้างเดียว
โอกาสของเวลส์จากไปในที่สุด หลังจากการจับลูกสนิชอันน่าตื่นตาโดยโทนี่ ซิลวา ซีกเกอร์ของบราซิล ผู้ซึ่งเหาะดิ่งลงได้อย่างเร้าใจในนาทีที่หนึ่งร้อยสามสิบเอ็ด และคว้าชัยชนะไปจากใต้จมูกของซีกเกอร์คู่แข่งอย่าง ไอริก คัดวอลลัดเดอร์
เกว็นน็อก โจนส์ถูกจับกุมตัวในเย็นวันนี้ เนื่องจากพยายามทำตามคำสัญญาที่เธอลั่นไว้ว่าจะสาปหน้าของบาร์โบซาให้สำเร็จท่ามกลางสายตาของผู้คนเต็มสนาม คณะผู้บำบัดรายงานว่าผิวหน้าของบาร์โบซาฟื้นคืนสภาพใหม่เกือบจะทั้งหมดแล้วและเขาอยู่ในสภาพจิตใจดีเยี่ยม
บราซิลจะพบกับผู้ชนะจากนัดแข่งขัน สหรัฐอเมริกา พบ ลิกเตนสไตน์ ในรอบรองชนะเลิศ
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง
ติดตามกันได้ที่เพจ https://www.facebook.com/potterdiarythaifan