รายละเอียดต่อไปนี้กล่าวถึงพลังและคุณสมบัติของไม้ที่จะนำมาทำไม้กายสิทธิ์ซึ่งได้มาจากบันทึกของ การ์ลิก โอลิแวนเดอร์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่ได้รับการยอมรับว่าฝีมือดีที่สุดในโลก คุณโอลิแวนเดอร์เชื่อว่าไม้กายสิทธิ์นั้นสามารถรับรู้ถึงพลังอำนาจของผู้ที่จะมาเป็นเจ้านายมันได้
"...ไม้กายสิทธิ์แต่ละอันมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว
ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์วิเศษที่นำมาใช้เป็นแกนกลางของไม้
ไม้แต่ละอันเมื่อเจอเจ้าของที่คู่ควรและเหมาะสมแล้วมันจะเริ่มเรียนรู้อุปนิสัยของเจ้านาย
พร้อมกับสอนเจ้านายของมันถึงพลังอำนาจที่มันสามารถทำได้
บันทึกต่อไปนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดของไม้ชนิดต่างๆ ที่ผมมักจะเลือกนำมาใช้ในการทำไม้กายสิทธิ์
มีไม้ไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมาทำไม้กายสิทธิ์อันทรงพลังได้
(เช่นเดียวกับที่มีมนุษย์บางส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้)
ผมต้องใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีกว่าจะบอกได้ว่าไม้ชนิดไหนเหมาะแก่การทำไม้กายสิทธิ์
และต่อไปนี้คือไม้ชนิดต่างๆ ที่ผมเห็นว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการศึกษาด้านไม้กายสิทธิ์วิทยา
และถึงแม้ผมจะทำไม้กายสิทธิ์มาเกือบตลอดชีวิต แต่ผมก็ยังคงจะเรียนรู้ในการทำไม้กายสิทธิ์ต่อไปเรื่อยๆ... "
เป็นไม้ที่แปลกมาก ผมคิดว่ามันเป็นไม้ที่ยากต่อการเสกคาถา เว้นแต่ว่ามันจะได้เจอเจ้าของที่คู่ควร และเป็นไม้ที่จะไม่ยอมให้ใครอื่นมาใช้งานมันได้ง่ายๆ เว้นแต่คนๆ นั้นต้องมีพรสวรรค์อย่างมาก ไม้ที่อ่อนไหวแบบนี้ยากที่จะรับมือ ผมเก็บไม้ชนิดนี้ไว้สำหรับพ่อมดที่มีความละเอียดอ่อน ลึกซึ้งและเข้าถึงความถ่องแท้ อาเคเซียไม่เหมาะสำหรับการเสกคาถาธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าอยู่ในมือของคนที่เหมาะสมกับมันแล้ว มันจะสามารถเสกคาถาที่ทรงพลังได้ทุกรูปแบบ แม้ว่ามันมักจะถูกมองว่าเป็นไม้ที่แปลกประหลาดเนื่องมาจากความเจ้าอารมณ์ของมันก็ตาม
เป็นไม้ที่ค่อนข้างดื้อรั้น แต่กระนั้นผมก็พบว่าคนที่ถือครองไม้ประเภทนี้ไม่ได้หัวแข็งหรือว่ายากแต่อย่างใด พวกเขาล้วนมีนิสัยเกื้อกูล มีน้ำใจและเป็นที่รักของคนอื่นๆ มากมาย นี่คือจุดที่แปลกจุดหนึ่งของไม้ชนิดนี้ ส่วนใหญ่ไม้มักจะมองหาเจ้านายที่มีบุคลิกลักษณะที่คล้ายกัน แต่ออลเดอร์กลับเลือกเจ้านายที่มีบุคลิกแตกต่างจากตัวของมันเอง ถ้าไม้ออลเดอร์มีความสุขกับผู้ถือครองแล้วล่ะก็มันจะเป็นไม้ที่ซื่อสัตย์และทรงพลังมากกว่าไม้ชนิดอื่นๆ ไม้ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเสกคาถาไร้เสียง เพราะเหตุนี้เองจึงเป็นไม้ที่เหมาะกับพ่อมดแม่มดที่มีพลังและทักษะทางเวทมนตร์ในระดับสูง
ไม้แอบเปิ้ลไม่ค่อยถูกนำมาทำเป็นไม้กายสิทธิ์บ่อยนัก ทั้งๆ ที่ความจริงมันเป็นไม้ที่มีพลังอำนาจสูงและเหมาะสำหรับพ่อมดแม่มดที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง อีกทั้งมันยังผสมไปด้วยอำนาจของศาสตร์มืดเล็กน้อย กล่าวกันว่าผู้ที่ครอบครองไม้แอบเปิ้ลมักจะเป็นผู้ที่จงรักภักดีและมีชีวิตที่ยืนยาว ผมสังเกตบ่อยๆ ว่าลูกค้าที่มีเสน่ห์ประจำตัวมักจะเป็นนายของไม้แอบเปิ้ลอยู่เสมอ หรือพ่อมดที่มีความสามารถไม่ธรรมดาในการสนทนากับสิ่งมีชีวิตวิเศษอื่นๆ ด้วยภาษาประจำถิ่นของสิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นก็มักจะเป็นเจ้าของไม้แอบเปิ้ลด้วย รวมไปถึงพ่อมด ไดแลนด์ มาร์กวู้ก ผู้เขียนหนังสือ ชาวเงือก : คู่มือสรุปภาษาและขนบธรรมเนีย
ไม้แอชขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ต่อนายที่แท้จริงของมันและคนถือก็ไม่ควรที่จะส่งต่อไม้นี้ให้กับพ่อมดแม่มดคนอื่นใช้งาน เพราะไม้จะสูญเสียพลังอำนาจและทักษะไปจนหมด ไม้นี้มีความยืดหยุ่นสูงหากแกนกลางของมันเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งที่มาจากยูนิคอร์น มีความเชื่อโบราณเกี่ยวกับไม้ชนิดนี้ซึ่งยังไม่ประจักษ์ชัดเท่าใด มันถูกกล่าวเป็นวลีซึ่งผมได้ยินจนติดหูเกี่ยวกับไม้โรวัน เกาลัด แอชและฮาเซิลที่ว่า “โรวันชอบซุบซิบ เกาลัดชอบคุย แอชดื้อด้าน ฮาเซลครวญคราง” แต่จากประสบการณ์ ผมพบว่าความเชื่อนี้มีส่วนของความเป็นจริงปนอยู่ด้วย พ่อมดที่เหมาะกับไม้แอชจะต้องมีความมั่นคงต่อสิ่งที่เขาเชื่อถือ แต่ก็มีพ่อมดที่หุนหันพลันแล่นหรือมั่นใจในตัวเองมากเกินไป มักจะเรียกร้องให้ไม้นี้รับใช้พวกเขาอย่างเต็มที่ แต่พวกเขาก็มักจะต้องพบกับความผิดหวังอยู่เสมอ เจ้าของในอุดมคติของไม้แอชอาจเป็นคนที่หัวรั้น แต่แน่นอนว่าต้องเป็นคนกล้าหาญ และต้องไม่แสดงอารมณ์ที่หยาบคายหรือหยิ่งยโสออกมา
แอสเพนคือไม้คุณภาพ ลักษณะเด่นคือเป็นไม้สีขาวซึ่งจะถูกนำมาทำไม้กายสิทธิ์อย่างประณีต ดังนั้นราคาของมันจึงค่อนข้างสูงเนื่องจากสีที่เหมือนกับงาช้าง เจ้าของที่เหมาะสมกับไม้แอสเพนมักจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านการประลอง หรือคนที่ถูกโชคชะตาลิขิตมาว่าต้องพบเจอกับการปะทะอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นแอสเพนจึงเป็นไม้ที่เหมาะแก่การต่อสู้อย่างยิ่ง ชมรมการประลองเวทซึ่งเป็นชมรมลับแห่งหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 18 ประกาศว่าพวกเขาจะยอมรับพ่อมดแม่มดที่ใช้ไม้กายสิทธิ์จากไม้แอสเพนเท่านั้น จากประสบการณ์ของผม เจ้าของไม้แอสเพนมักจะเป็นพวกที่มีจิตใจมั่นคงและแน่วแน่มาก จะไม่ถูกชักจูงหรือเบี่ยงเบนความสนใจออกไปได้ง่ายๆ อาจเรียกได้ว่าไม้แอสเพนนี้คือไม้แห่งการปฏิวัติ
คนที่เหมาะสมกับไม้บีชนั้น หากเป็นพ่อมดเด็ก เด็กคนนั้นก็จะฉลาดกว่าคนในวัยเดียวกันและหากเป็นผู้ใหญ่ก็จะเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเชาวน์ปัญญาและประสบการณ์ ไม้บีชนั้นจะใช้งานได้แย่มากกับคนที่มีจิตใจคับแคบและเต็มไปด้วยทิฐิ เช่นพ่อมดแม่มดที่ดันทุรังใช้ไม้บีชเป็นไม้กายสิทธิ์ทั้งๆที่ไม่มีความเหมาะสมกับมันเลยแม้แต่น้อย ไม้บีชเหมาะแก่ผู้ที่จะศึกษาทางด้านไม้กายสิทธิ์วิทยา ยกตัวอย่างเช่นตัวผมเอง ไม้บีชจะแสดงถึงความละเอียดอ่อนและความสามารถในเชิงศิลปะ ซึ่งคุณสมบัติเฉพาะตัวนี้จะพบได้ยากมากในไม้ชนิดอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เองมันจึงมีชื่อเสียงอย่างรุ่งโรจน์ในสายงานทางด้านนี้
แบล็กทอร์นเป็นไม้ประหลาดและโด่งดังพอสมควร ในมุมมองของผมมันเหมาะกับพวกนักรบมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ถือไม้แบล็กทอร์นต้องเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดเสมอไป (แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดส่วนใหญ่นั้นใช้ไม้แบล็กทอร์น) คุณสามารถพบคนถือไม้แบล็กทอร์นได้ในกลุ่มมือปราบมาร สิ่งที่น่าพิศวงเกี่ยวกับพุ่มแบล็กทอร์น - นอกจากหนามแหลมของมัน- คือ เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป พุ่มแบล็กทอร์นจะให้ผลเบอรี่ที่มีรสหวานมากๆ ออกมา ตัวไม้ก็เช่นกัน มันจะต้องผ่านการผจญภัย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับเจ้าของ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างแท้จริง และหลังจากนั้นแล้วแบล็กทอร์นจะกลายเป็นไม้ที่จงรักภักดี ราวกับเป็นทาสรับใช้สำหรับเขาหรือเธอผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียวไปตลอดกาล มีตำนานเล่ากันว่าไม้กายสิทธิ์ของ เซอร์ คาโดแกน ก็เป็นไม้แบล็กทอร์น แต่ค่อนข้างประหลา่ดเพราะแกนกลางไม้กายสิทธิ์ของเขาเป็นหนวดโทรลล์
เป็นไม้ที่ไม่ธรรมดาที่สุดในบรรดากลุ่มไม้วอลนัตด้วยกัน วอลนัตดำเลือกอยู่กับเจ้านายที่ทรงพลังและมีสัญชาตญาณดีเยี่ยม มันเป็นไม้ที่งดงามมากแต่ก็ไม่ง่ายในการที่คุณพยายามจะควบคุมมัน ไม้ชนิดนี้จะสูญเสียพลังไปง่ายๆ หากคนที่ถือครองฝืนใช้คาถาในแบบที่ขัดแย้งกับตัวตนของตนเอง ถ้าพ่อมดแม่มดคนใดไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองหรือกับคนอื่น วอลนัตดำจะไม่แสดงพลังอำนาจอะไรอีกเลย แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม และมันจะแสวงหาเจ้านายคนใหม่ทันทีเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม การจับคู่กับไม้ชนิดนี้ต้องอาศัยความจริงใจและความเข้าใจในตัวตนของตนเองอย่างถ่องแท้ หากเป็นเช่นนั้นแล้วไม้วอลนัตดำจึงจะเป็นไม้ที่ภักดี พร้อมกับเปล่งพรสวรรค์ที่น่าประทับใจออกมาจากตัวของมันด้วย
ทุกครั้งที่ผมเจอพ่อมดที่ถือไม้ซีดาร์ พวกเขามักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความจงรักภักดีที่ไม่ธรรมดา คุณพ่อของผม เกอร์เวียส โอลิแวนเดอร์ มักจะพูดอยู่เสมอว่า “ลูกจะไม่มีวันหลอกลวงผู้ที่ถือไม้ซีดาร์ได้” ซึ่งตัวผมเองก็เห็นด้วยกับคำพูดนี้ ไม้ซีดาร์จะรับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบที่มันจะได้รับ ซึ่งต้องเต็มไปด้วยความหลักแหลมและการหยั่งรู้ ผมสามารถบอกได้เต็มปากว่าไม่เคยมีเจ้าของไม้ซีดาร์คนใดเลยที่ผมกล้ามีเรื่องด้วย โดยเฉพาะการหาเรื่องหรือทำร้ายคนที่พวกเขารัก พ่อมดแม่มดที่ถือไม้ซีดาร์ล้วนแต่มีศักยภาพและเป็นศัตรูที่น่ากลัวซึ่งมักจะทำให้คนที่ไปท้าดวลกับพวกเขาต้องเกิดความหวั่นเกรงอยู่เสมอ
ไม้ทรงพลังและหายาก มันได้รับการยกย่องอย่างสูงจากกลุ่มนักเรียนของมาโฮโทโคโระ โรงเรียนเวทมนตร์ในประเทศญี่ปุ่น ใครก็ตามที่ได้เป็นเจ้าของไม้เชอร์รี่จะได้รับความคารพนับถือเป็นพิเศษ พ่อมดฝั่งตะวันตกควรจะล้มเลิกความคิดที่ว่าดอกสีชมพูบนต้นไม้ชนิดนี้มีไว้เพื่อความสวยงามหรือไว้ประดับประดาเพียงอย่างเดียว ไม้เชอร์รี่นั้นมีพลังอำนาจที่ร้ายกาจอย่างแท้จริงไม่ว่ามันจะจับคู่กับแกนกลางชนิดใดก็ตาม แต่มันจะทำงานได้ดีเยี่ยมหากจับคู่กับแกนเอ็นหัวใจมังกร ไม้เชอร์รี่ไม่เหมาะกับพ่อมดที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ดีพอและขาดความหนักแน่นทางจิตใจ
นี่ก็เป็นไม้ที่แปลกมากเช่นกัน เกาลัดมีพลังอำนาจหลายรูปแบบซึ่งขึ้นอยู่กับแกนกลางที่ใช้ รวมถึงบุคลิกของคนที่ถือครอง ไม้เกาลัดจะดึงดูดพ่อมดแม่มดที่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนสัตว์วิเศษ รวมถึงกลุ่มที่เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรศาสตร์ แต่พอจับคู่กับเอ็นหัวใจมังกร กลับพบว่ามันเหมาะกับคนที่นิยมในความหรูหราและวัตถุนิยม ซึ่งพวกเขาไม่สนว่าจะได้มันมาด้วยวิธีการไหน แต่กระทั้น หัวหน้าศาลสูงวิเซนต์กาม็อตทีอยู่ถึงสามคนที่ถือครองไม้เกาลัด พร้อมกับแกนกลางที่เป็นขนหางยูนิคอร์น พวกเขาแสดงออกถือความรักในวิถีแห่งความยุติธรรม
ไม้ไซเปรสมักจะเชื่อมโยงกับพวกชนชั้นสูง ช่างทำไม้กายสิทธิ์ในยุคกลาง เกอเรียนต์ โอลิแวนเดอร์ ได้เขียนเอาไว้ว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอยู่เสมอเมื่อได้ขายไม้ไซเปรสออกไป เพราะเขากำลังจะได้พบกับพ่อมดแม่มดที่พร้อมยอมตายอย่างห้าวหาญเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ โชคดีที่ยุคนี้เป็นยุคที่การนองเลือดน้อยลง ผู้ถือไม้ไซเปรสจึงแทบไม่ต้องเสี่ยงหรือสละชีวิตของตนเอง แต่กระนั้นก็อาจขะยังมีคนที่พร้อมจะยอมทำอยู่ดี และไม้ชนิดนี้ก็ยินดีที่พร้อมจะรับใช้ เสียด้วย ไม้ไซเปรสเหมาะกับพ่อมดแม่มดที่กล้าหาญ บ้าบิ่นและเสียสละ หรือคนที่ไม่กลัวแม้จะต้องกับเผชิญด้านมืด ทั้งของตนเองและผู้อื่น
ด็อกวู้ดเป็นไม้โปรดของผม ผมพบว่าเจ้าของไม้ด็อกวู้ดเป็นคนที่เฮฮาและมีอารมณ์ขัน เพราะด็อกวู้ดก็เป็นไม้ขี้เล่น สำบัดสำนวนและซุกซน เป็นอุปนิสัยของมันโดยธรรมชาติ และพวกมันจะเลือกเจ้านายที่ยอมให้พวกมันได้สัมผัสกับความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ฟังดูแปลกพิลึกใช่ไหม? แต่เมื่อหาบทสรุปเกี่ยวกับไม้ชนิดนี้ผมพบว่า มันไม่สามารถแสดงอำนาจต่อเวทมนตร์ที่ทรงพลังได้เลยหากถูกบีบบังคับให้ต้องเสกออกมาภายใต้สภาวะที่กดดัน แต่เมื่อไม้นี้จับคู่กับพ่อมดที่ฉลาดหลักแหลมและเจ้าความคิด มันกลับสามารถร่ายคาถาที่น่าพิศวงออกมาได้มากมาย ข้อบกพร่องเล็กน้อยอีกอย่างคือไม้ด็อกวู้ดนี้ไม่สามารถเสกคาถาไร้เสียงได้ มันชอบที่จะให้มีการร่ายคาถาออกมาดังๆมากกว่า
ไม้สีดำเข้มชนิดนี้มีลักษณะที่น่าประทับใจ มันมีชื่อเสียงมากในการร่ายคาถาเพื่อการต่อสู้ทั้งมวลและรวมถึงการแปลงร่างด้วย ไม้มะเกลือจะมีความสุขอย่างที่สุดเมื่อมันอยู่ในมือของผู้ที่กล้าจะเป็นตัวของตัวเอง มันมักจะไม่คล้อยตามคนถืออื่นๆที่ไม่ใช่เจ้าของที่แท้จริง เรียกได้ว่ามันมีความภักดีสูง เจ้าของไม้มะเกลือนี้มักจะพบเห็นได้ในกลุ่มภาคีนกฟีนิกซ์และผู้เสพความตาย จากประสบการณ์ของผมไม้มะเกลือเหมาะกับผู้ที่ยึดมั่นในความเชื่อของตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะโดนกดดันมากเพียงใดก็ตามแต่เจตนารมณ์และอุดมการณ์ที่ยึดถือไว้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ไม้ที่หายากที่สุดในบรรดาไม้ทั้งหมด ชื่อเสียงโดยรวมของมันมาจากความโชคร้าย ไม้เอลเดอร์เป็นไม้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมต่อเจ้านายของมันเองมากกว่าไม้อื่นๆ มันบรรจุพลังที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ภายในแต่รังเกียจที่จะอยู่กับเจ้าของที่ปราศจากความพิเศษหรือเลิศเลอ การจะถือครองไม้เอลเดอร์ได้เป็นเวลานานได้ คนๆนั้นจะต้องเป็นพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว ความเชื่อโบราณที่ว่า “ไม้เอลเดอร์ไม่มีวันเลิศเลอ” คือสิ่งที่ทำให้ไม้เอลเดอร์เป็นไม้ที่น่ากลัว แต่ในความเป็นจริงความเชื่อนี้ผิดมหันต์และบรรดาช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่โง่เขลาจำนวนมากมักปฏิเสธที่จะทำงานกับไม้เอลเดอร์ เพียงเพราะพวกเขาแค่ต้องการจะขายไม้กายสิทธิ์ของตนเองต่อไปมากกว่าจะมาคลุกคลีอยู่กับไม้เอลเดอร์ที่เล่าต่อกันมาว่าน่ากลัว ความจริงก็คือ คนที่มีความแปลกและไม่ธรรมดากว่าคนอื่นเท่านั้นที่จะได้จับคู่กับไม้เอลเดอร์ นั่นก็คือมีโอกาสน้อยมากที่ไม้นี้จะได้จับคู่กับพ่อมดแม่มดคนใดคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าหากใครได้เป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์แสดงว่าคนๆนั้นได้ถูกกำหนดโชคชะตามาแล้วว่าให้มีอะไรที่พิเศษแตกต่างไปจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
มีความเชื่อที่ไร้สาระว่า “พ่อมดเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะได้ถือครองไม้เอลม์” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ปล่อยข่าวลือนี้คือพ่อมดที่ครอบครองไม้เอลม์ซึ่งกำลังพยายามหาข้อพิสูจน์ถึงสายเลือดของตนเอง เท่าที่ผมรู้ไม้เอลม์นั้นเหมาะกับพวกมักเกิ้ลบอร์นเป็นที่สุด ความเป็นจริงคือไม้เอลม์ชอบเจ้าของที่ดูมีความเชี่ยวชาญสูงในด้านของเวทมนตร์และเคารพชาติกำเนิดของตนเอง จากประสบการณ์ของผม ในบรรดาไม้ทั้งหมด ไม้เอลม์เป็นไม้ที่เกิดอุบัติเหตุและความผิดพลาดน้อยที่สุด อีกทั้งยังร่ายคาถาได้งดงามที่สุดด้วย ไม้เอลม์มีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่ออยู่ในมือของคนที่เหมาะสมกับมัน (จากคุณสมบัติดังกล่าวนี้ทำให้ไม้เอลม์เป็นที่ต้องการในกลุ่มพ่อมดสายเลือดบริสุทธิ์)
ไม่ว่าจะช่วงเวลาที่ดีหรือเลวร้ายขนาดไหน สำหรับพ่อมดแม่มดแล้วไม้กายสิทธิ์ก็คือเพื่อนที่จงรักภักดี ไม้โอ๊กอังกฤษเรียกร้องหาเจ้าของที่เต็มไปด้วยพลัง กล้าหาญ และซื่อสัตย์ เป็นที่รู้จักกันน้อยนักว่าเจ้าของไม้โอ๊กอังกฤษนี้มักจะมีสัญชาตญาณที่แม่นยำ และบ่อยครั้งมักจะเป็นพ่อมดที่อาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติทั้งพืชและสัตว์ ไม้โอ๊กถูกขนานนามว่าราชันย์แห่งป่า การนำต้นโอ๊กมาทำไม้กายสิทธิ์จะต้องเก็บไม้โอ๊กมาในช่วงแรกเริ่มของเหมายันหรือครีษมายันเท่านั้น (ในขณะที่ไม้ฮอลลี่จะกลายเป็นราชันย์แห่งป่าเมื่อวันเวลาเริ่มสั้นลงอีกครั้งและจะต้องเก็บในช่วงข้างแรมเท่านั้น) จากความเชื่อทั้งสองส่วนนี้จึงเป็นที่มาของตำนานอีกบทหนึ่งที่ว่า “ถ้าเขาเป็นไม้โอ๊กและเธอเป็นไม้ฮอลลี่ ได้แต่งงานกันก็บ้าสิ้นดี” ความเชื่อนี้เป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่ผมพบว่าไม่เป็นความจริง มีคำร่ำลือกันว่าไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดเมอร์ลินทำมาจากไม้โอ๊กอังกฤษ (แต่ว่าไม่เคยมีใครพบหลุมศพของเขาจึงไม่มีข้อยืนยันในข้อมูลดังกล่าวนี้)
เกอร์โบลด์ ออกตาเวียส โอลิแวนเดอร์ คุณปู่ที่น่าเคารพของผมมักเรียกไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้เฟอร์ว่า “ไม้ที่รอดชีวิต” เพราะเขาขายไม้เฟอร์ให้กับพ่อมดสามคนและทั้งหมดล้วนผ่านภัยอันตรายมาได้โดยปราศจากรอยขีดข่วนใดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่ยืดหยุ่นที่สุดและเป็นไม้ที่ต้องการเจ้าของที่มีความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์อันแรงกล้า หากไปอยู่ในมือของคนที่อ่อนไหวง่ายและไม่เด็ดขาด ไม้เฟอร์จะกลายเป็นไม้ที่ห่วยแตกไปเลย อีกทั้งไม้เฟอร์ยังเหมาะที่สุดกับเวทมนตร์การแปลงร่างและชื่นชอบเจ้าของที่มีสมาธิ จิตใจเข้มแข็ง และชอบข่มขู่คนอื่นให้หวาดเกรงในบางครั้ง
เกรโกโรวิตช์ช่างทำไม้กายสิทธิ์ได้กล่าวไว้ว่า
“ไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้ฮอว์ทอร์นนั้นจะมีคุณสมบัติที่ขัดแย้งกับตัวมันเองและเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกประหลาด
ฮอว์ทอร์นเป็นต้นไม้แห่งการให้กำเนิด ดอกและใบของมันช่วยในการรักษาโรค แต่กิ่งที่ถูกตัดจะส่งกลิ่นอายแห่งความตายออกมา”
โดยปกติผมมักจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดของเกรโกโรวิตช์สักเท่าไร แต่กับไม้ฮอว์ทอร์นนี้ผมกลับเห็นด้วยกับเขาทุกประการ ซึ่งมันสอดคล้องกับผู้ที่ถือไม้ชนิดนี้ ไม้ฮอว์ทอร์นอาจทำงานได้ดีกับเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาแต่มันก็ใช้งานได้ดีถ้าเป็นเวทมนตร์ที่เป็นคำสาปและผมยังสังเกตเห็นว่าเจ้าของไม้ฮอว์ทอร์นส่วนใหญ่นั้นมักจะอยู่เป็นแม่บ้านและไม่ค่อยได้ใช้งานมัน ซึ่งขัดกับนิสัยโดยธรรมชาติและเจ้านายของมันซึ่งเคยผ่านเรื่องราวแบบขั้นวิกฤติมาด้วยกัน ไม้ฮอว์ทอร์นนั้นยากต่อการควบคุม ผมจึงมอบไม้ชนิดนี้ให้กับพ่อมดแม่มดที่มีความสามารถซึ่งบางกรณีพวกเขาเหล่านั้นได้กลายเป็นคนอันตรายในภายหลัง คุณสมบัติอีกอย่างของไม้ฮอว์ทอร์นคือ หากเจ้านายของมันใช้งานมันหนักเกินไปคาถาก็จะตีกลับมายังผู้ใช้มันโดยอัตโนมัติ
เฮเซลเป็นไม้ที่อ่อนไหวและมักจะสะท้อนออกมาถึงอารมณ์ของคนที่ใช้มัน ไม้เฮเซลจะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากคนที่ใช้สามารถเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของตนเองได้เป็นอย่างดี คนรอบข้างควรระวังผู้ถือไม้เฮเซลที่อยู่ในภาวะอารมณ์ที่กำลังขาดสติหรือกำลังรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากความผิดหวัง เพราะไม้จะซึมซับความรู้สึกนั้นไว้และปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของมันออกมาซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมีพลังออกมาในรูปแบบใด แต่ไม้เฮเซลก็มีข้อดีที่สามารถชดเชยข้อเสียดังกล่าวนี้ได้
ไม้เฮเซลจะมีพลังมหาศาลเมื่ออยู่ในมือของพ่อมดที่มีทักษะเวทมนตร์สูงและเป็นไม้ที่จงรักภักดีกับเจ้าของอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่ไม้เฮเซลจะร่วงโรยและจากไปพร้อมกับจุดจบของเจ้านาย โดยเมื่อถึงเวลานั้นไม้จะขับเวทมนตร์ทั้งหมดออกมาและไม่สามารถจะเสกเวทมนตร์ใดๆได้เลยในช่วงเวลานั้นและท้ายสุดแกนกลางจะหลุดออกมาจากไม้ ถ้าแกนกลางของไม้เฮเซลเป็นขนหางยูนิคอร์น (ซึ่งแทบไม่มีโอกาสที่ไม้เฮเซลจะได้จับคู่กับแกนชนิดนี้เลย) ไม้กายสิทธิ์นั้นจะอยู่ในสถานะที่เรียกว่าใช้งานไม่ได้อีกเลย ไม้เฮเซลยังมีความสามารถพิเศษในการตรวจหาน้ำใต้ดินและปล่อยควันรูปร่างคล้ายกับหยดน้ำสีเงินออกมาหากว่าผ่านไปแถวบ่อน้ำพุร้อนหรือบ่อน้ำอีกด้วย
ในแง่ของการปกป้องคุ้มครองฮอลลี่จัดเป็นไม้ที่หายาก มันจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับใครก็ตามที่ต้องการเอาชนะความฉุนเฉียวและความวู่วามในตัว แต่ขณะเดียวกัน ไม้ฮอลลี่มักจะเลือกเจ้านายที่ต้องเข้าไปเจอกับอันตรายและเรื่องที่เกี่ยวข้องทางจิตวิญญาณอยู่เสมอ ไม้ฮอลลี่เป็นหนึ่งในไม้ที่สามารถแสดงศักยภาพได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่ามันจับคู่กับแกนชนิดใด และการจับคู่กับขนนกฟีนิกซ์นั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนของไม้ฮอลลี่นั้นขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับความเถรตรงของนกฟินิกซ์ รูปแบบการจับคู่ที่ไม่ธรรมดานี้กลับกลายเป็นว่าเข้ากันอย่างดีเยี่ยม และไม่ควรมีสิ่งใดหรือใครหน้าไหนขวางทางพวกเขา
ไม้กายสิทธิ์ของผมทำจากไม้ฮอร์นบีม ซึ่งผมขอบอกไว้อย่างถ่อมตนเองว่า ฮอร์นบีมเลือกพ่อมดแม่มดที่จะเป็นนายของมันจากการที่เขาหรือเธอนั้นมีพรสวรรค์และความหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจริงจัง ซึ่งหลายๆคนเรียกว่า “ความคลั่งไคล้” แต่ผมชอบที่จะเรียกว่า “พรสวรรค์” มากกว่า ไม้ฮอร์นบีมคือหนึ่งในไม้ที่มีการปรับเปลี่ยนตัวมันเองให้กับเข้ากับรูปแบบการใช้เวทมนตร์ของคนถือมากที่สุด และจะกลายเป็นไม้เฉพาะบุคคลไปอย่างรวดเร็ว คนอื่นๆที่ไม่ใช่เจ้าของไม้ฮอร์นบีมเมื่อลองร่ายคาถาดูจะพบว่าเกิดความยากยิ่งที่จะร่ายคาถาใดๆออกมาแม้จะเป็นคาถาที่ง่ายดายที่สุดก็ตาม และมันปฏิเสธที่จะร่ายคาถาใดๆไม่ว่าจะเป็นคาถาดีหรือคาถาศาสตร์มืดถ้าคาถานั้นมันไม่เกี่ยวข้องกับหลักการของเจ้านายตนเอง ไม้ฮอร์นบีมจัดว่าเป็นไม้ที่ถูกปรับแต่งอย่างประณีตและมีความรู้สึกนึกคิดมากเป็นพิเศษ
ไม้ลาร์ชนั้นแข็งแรง ทนทาน และดูอบอุ่น ถูกกล่าวขานว่าเป็นไม้กายสิทธิ์ที่น่าหลงไหลและทรงอำนาจ ชื่อเสียงสำหรับไม้ลาร์ชในแง่ของความกล้าหาญและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ เป็นตัวการันตีว่าไม้สนสามารถใช้งานได้ล้ำหน้ายิ่งกว่าไม้ชนิดใด ไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ยากที่จะทำให้ตัวมันเองเป็นที่ถูกใจของเจ้านาย อีกทั้งมันยังมีความซับซ้อนและรับมือยากยิ่งกว่าใครหลายๆคนจะคาดคิด ผมพบว่าไม้ลาร์ชนั้นมีความสามารถพิเศษที่ไม่คาดคิดซ่อนเร้นอยู่ภายใน ราวกับเป็นการบอกลักษณะของเจ้านายของมันเอง พ่อมดแม่มดที่ถือไม้สนมักจะไม่ทราบถึงความสามารถพิเศษอย่างเต็มที่ของตนเองจนกว่าจะได้จับคู่กับไม้นี้และเผชิญเหตุการณ์ต่างๆด้วยกันและพบว่าไม้ลาร์ชนี้เป็นคู่หูที่พิเศษกว่าไม้ใด
มีการกล่าวไว้ว่า ไม้ลอเรลจะไม่ทนกับการกระทำอันไร้เกียรติ แม้จะอยู่กับคนที่แสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศก็ตาม ผมได้ทราบมาว่าไม้ลอเรลสามารถร่ายคาถาที่รุนแรงและอาจถึงตายได้ในบางครั้ง มันมักจะถูกเรียกว่าไม้ขี้โลเล ซึ่งดูไม่ค่อยยุติธรรมกับมันเท่าไร ไม้ลอเรลนั้นจะไม่อดทนกับเจ้านายที่ขี้เกียจสันหลังยาว และจะทำให้มันเปลี่ยนใจจากเจ้าของเดิมได้อย่างรวดเร็วเต็มใจ หากเจ้านายของมันยังไม่ปรับปรุงตัว มันก็พร้อมที่จะจากไปตลอดกาล นอกจากนี้ไม้ลอเรลยังมีความแปลกพิศวงอีกอย่างหนึ่งคือ หากพ่อมดแม่มดคนใดพยายามที่จะขโมยมันจากเจ้าของเดิม มันสามารถปล่อยสายฟ้าออกมาใส่หัวขโมยคนนั้นได้ด้วย
ผมพบว่าเจ้าของไม้เมเปิ้ลนั้นมักจะเป็นนักเดินทาง-ผจญภัย มันไม่ใช่ไม้ที่ชอบอยู่ติดบ้านและมักจะเลือกเจ้าของที่มีความทะเยอทะยานสูง เพราะไม่เช่นนั้นพลังอำนาจของมันจะค่อยๆ เสื่อมลงไป ความท้าทายและการเปลี่ยนที่บ่อยๆ จะทำให้มันเปล่งปลั่งและโชติช่วงชัชวาลเหมือนกับเจ้าของ ทั้งความสามารถและอุปลักษณะนิสัย เมเปิ้ลเป็นไม้ที่ทรงคุณค่า งดงาม และเป็นที่ปรารถนามาหลายศตวรรษ การถือครองไม้เมเปิ้ลยังแสดงถึงสถานะภาพพิเศษ เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันให้กับพ่อมดแม่มดที่ประสบความสำเร็จมานักต่อนัก
ไม้โทนสีทองนี้สามารถนำมาทำไม้กายสิทธิ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังวิเศษได้อย่างดีเยี่ยม ไม้แพร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในมือของเจ้านายที่ใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเฉลียวฉลาด จากประสบการณ์ของผม ผู้ถือไม้แพร์มักจะเป็นผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพ ผมไม่เคยได้ยินว่าพ่อมดแม่มดที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดได้ถือครองไม้ชนิดนี้เลย ไม้แพร์นั้นพบได้มากที่สุดในกลุ่มพ่อมดแม่มดที่มีความยืดหยุ่นสูงและผมสังเกตว่ารูปลักษณ์ของไม้แพร์จะยังคงดูสดใหม่เสมอแม้จะผ่านการใช้งานมานานหลายปีแล้วก็ตาม
โดยเนื้อแท้จริงแล้ว ไม้สนจะเลือกเจ้านายที่มีความเป็นตัวของตัวเอง น่าดึงดูดหรืออาจดูลึกลับในบางครั้ง ไม้นี้จะพอใจอย่างยิ่งหากมันถูกใช้ไปในทางที่สร้างสรรค์ และที่ต่างไปจากไม้อื่นๆ คือ มันสามารถปรับตัวให้เข้ากับคาถารูปแบบใหม่ๆได้ตลอดเวลา ช่างทำไม้กายสิทธิ์หลายคนยืนยันว่าไม้สนนั้นจะใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อถูกใช้งานไปเรื่อยๆ ซึ่งผมเองก็ยืนยันความจริงในข้อนี้ เพราะผู้ถือไม้สนที่ผมรู้จักไม่มีใครอายุสั้นเลยสักคน และมันยังเป็นไม้ที่เหมาะและไวต่อคาถาไร้เสียงที่สุดอีกไม้หนึ่งอีกด้วย
“ถ้าคุณมองหาความซื่อสัตย์ ต้องเริ่มจากไม้ป็อปลาร์” ข้อคิดสำคัญที่ เกอร์โบลด์ โอลิแวนเดอร์ คุณปู่ของผมและจากประสบการณ์ของผมเองที่มีเกี่ยวกับผู้ที่ถือไม้ป็อปลาร์ นี่คือไม้กายสิทธิ์ที่เชื่อถือได้ในเรื่องของความมั่นคง ความทนทาน และพลังเวทมนตร์ที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ มันจะสุขใจเสมอถ้าได้รับใช้พ่อมดแม่มดที่เปี่ยมไปด้วยศีลธรรม ซึ่งกลายมาเป็นตลกที่น่าขบขันในหมู่ช่างทำไม้กายสิทธิ์ว่า ไม่มีทางที่นักการเมืองจะได้ถือครองไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ แน่นอนว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะมีรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์อย่างน้อยสองคนที่ได้เป็นเจ้าของไม้ป็อปลาร์และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากที่สุด คือ เอลดิช ดิกกอรี่ และ อิวาเจไล ออร์พริงตัน สองนักการเมืองผู้ถือครองไม้ป็อปลาร์จากร้านโอลิแวนเดอร์
เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยๆว่า โอ๊กแดงเป็นตัวบอกถึงความเจ้าอารมณ์ของคนที่ถือครองมัน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วพ่อมดแม่มดที่เหมาะกับไม้นี้มักจะมีความไวต่อสิ่งผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มันเป็นไม้กายสิทธิ์ที่เหมาะแก่การต่อสู้ตัวต่อตัวอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งแทบจะไม่ต่างไปจากไม้โอ๊กอังกฤษสักเท่าไร สำหรับผมมันเป็นต้นแบบในอุดมคติสำหรับไม้ที่ใช้ในการต่อสู้ ทั้งสัมผัสเบา มีไหวพริบและปรับตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนั่นทำให้มันสร้างลักษณะที่โดดเด่นให้กับผู้ที่ถือครองมันซึ่งส่วนมากเป็นนักต่อสู้ที่อยู่ฝ่ายดี ในความเห็นของผมโอ๊กแดงเป็นไม้กายสิทธิ์ที่มีความโอบอ้อมอารีที่สุด
ไม้กายสิทธิ์คุณภาพอย่างสนแดงเป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาด ปัจจุบันก็ยังจัดเป็นไม้ที่หายากเพราะมันมีชื่อเสียงในแง่ที่ว่าจะนำพาความโชคดีมาให้แก่ผู้ที่ถือครอง นั่นเป็นความคิดของคนทั่วๆ ไปซึ่งขัดกับความเป็นจริงทางไม้กายสิทธิ์วิทยา สนแดงไม่ได้มีอำนาจที่จะนำพาความโชคดีมาให้แต่อย่างใด แต่มันจะดึงดูดพ่อมดแม่มดที่มีความสามารถอันน่าเลื่อมใสอยู่ภายในให้มาถือครองพวกมัน มันจะให้โชคหากผู้ถือต้องการตัดสินใจหรือเอาตัวรอดจากความหายนะ การพบพ่อมดแม่มดที่ถือครองไม้สนแดงทำให้ผมได้รับฟังเรื่องราวน่าตื่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ
โรแวนเป็นไม้ที่ยอดนิยมในการทำไม้กายสิทธิ์มาตลอด เพราะมันขึ้นชื่อในแง่ของการปกป้องเจ้าของได้ดีกว่าไม้อื่น จากประสบการณ์ของผม ไม้ชนิดนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการป้องกันคาถาได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาถาที่มีอานุภาพรุนแรงและยากที่จะรับมือ เป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีพ่อมดแม่มดศาสตร์มืดคนใดเลยที่ได้คือครองไม้โรแวน แต่ผมเองอาจจะจำผิดไปเองก็ได้ ว่าอาจมีพ่อมดแม่มดบางรายที่ซื้อไม้โรแวนไปจากผมแล้วไปก่อเรื่องชั่วร้าย เพราะมันเป็นไม้ที่ร่าเริงที่สุด อีกทั้งยังมีหัวใจและมีจิตใจอันงดงาม แถมยังมีกิตติศัพท์ในแง่ของความซื่อสัตย์ไม่หลอกลวงใคร และไม้โรแวนมักจะให้ผลที่ดีกว่าไม้อื่นๆในแง่ของการประลองเวทย์
ไม้ชนิดนี้มีความแปลกและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่สิบเก้า เลยทำให้ความต้องการไม้ชนิดนี้เพิ่มสูงขึ้น จนถึงกับมีช่างทำไม้กายสิทธิ์ไร้ศีลธรรมเอาไม้อื่นมาย้อมแมวหลอกขายให้กับคนที่ต้องการ เหตุที่ไม้ไลม์ป๊อปปูล่าร์มากๆ นั้น ไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ของมันที่ดูแปลกตา แต่มันยังมีชื่อเสียงในแง่ของการหยั่งรู้และการพินิจใจ ความสามารถทางเวทมนตร์ที่ลึกล้ำทั้งสองประการนี้ ทำให้พ่อมดแม่มดส่วนใหญ่ที่ถือไม้ไลม์ไว้ในครอบครองส่วนมากจะเป็นคนที่มีฐานะ
เมื่อความต้องการไม้ชนิดนี้สูงขึ้น ช่างทำไม้กายสิทธิ์ อาเธอโร เซฟาโลพอส อ้างว่าความสามารถในการหยั่งรู้ของไม้ซิลเวอร์ไลม์นั้นเป็นเรื่องแหกตาและเขายังกล่าวหา เกอร์โบลด์ โอลิแวนเดอร์ (คุณปู่ของผม) ว่ากักตุนไม้ชนิดนี้ไว้จำนวนมากเพื่อหวังเก็งกำไร แต่เซฟาโลพอสก็เป็นแค่ช่างทำไม้กายสิทธิ์ปัญญานิ่มและสมองกลวง จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาออกจากธุรกิจสายนี้ภายในเวลาไม่นาน
ช่างทำไม้กายสิทธิ์ที่ไร้ความสามารถมักจะบอกว่า ไม้สปรูซนั้นดื้อรั้นและทำยาก ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ผมต้องใช้ความเชี่ยวชาญอย่างมากในการทำไม้ สปรูซขึ้นมาสักอันหนึ่ง และไม้กายสิทธิ์ชนิดนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีนิสัยขี้ระแวงและลุกลี้ลุกลน และจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งถ้าไปอยู่ในมือของคนซุ่มซ่าม ไม้สปรูซต้องการเจ้าของที่มีความหนักแน่นในการร่ายคาถาแต่ละครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาอย่างยอดเยี่ยมที่สุด จากประสบการณ์ของผมหากไม้สปรูซได้จับคู่กับเจ้าของที่เหมาะสมกันแล้ว มันจะเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมและซื่อสัตย์กับเจ้านายของมันอย่างยิ่ง
ซิคามอร์เป็นไม้ที่กระหายการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ และจะลดประสิทธิภาพลงหากถูกนำไปใช้กับเรื่องเดิมๆ ที่แปลกกว่าไม้อื่นคือ มันสามารถลุกเป็นไฟได้ หากผู้ถือครองมันละเลยหลักการของในข้างต้นนานเกินไปจนมันรู้สึกเบื่อ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยมากกับเจ้าของที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน มีเรื่องเล่าอยู่บ่อยครั้งว่าอยู่ๆ ไม้ซิคามอร์ก็ลุกเป็นไฟ เพราะพวกเขาใช้ไม้ในการเรียกสลิปเปอร์ให้ลอยมาหา จากข้างต้นผมจึงสรุปได้ว่า เจ้าของที่เหมาะสมกับไม้ซิคามอร์นี้ต้องเป็นคนช่างสงสัย ฉลาดปราดเปรื่อง และรักการผจญภัย เมื่อใดที่ซิคามอร์อยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสมแล้ว มันจะแสดงศักยภาพออกมาอย่างสูงอีกทั้งมีการปรับตัวและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จนจัดได้ว่ามันเป็นไม้ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
ไม้ไวน์มีความพิเศษเฉพาะตัว และผมก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สืบทอดการทำไม้กายสิทธิ์จากไม้ไวน์มาทุกวันนี้ ไม้ไวน์จะเลือกเจ้านายที่มีเป้าหมายทะเยอะทะยานสู่ความยิ่งใหญ่และมีความคิดความอ่านที่วิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าคนทั่วไป ซึ่งบ่อยครั้งที่พวกเขาเหล่านี้แรกเริ่มก็มีความคิดความอ่านเหมือนกับคนทั่วไปแต่ก็มีบ่อยครั้งที่พวกเขาทำให้คนรอบข้างประหลาดใจถึงตัวตนและความคิดที่ซ่อนอยู่ภายในและดูน่าค้นหา อีกอย่างหนึ่งทีผมสังเกตได้จากไม้ชนิดนี้คือมีการตอบสนองต่อผู้ที่จะมาครอบครองได้อย่างรวดเร็ว ผมเคยเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในร้านถึงสองครั้ง ว่าไม้ไวน์จะปล่อยมนตร์ออกมาทันทีเมื่อเจ้าของที่ใช่ของมันก้าวเท้าเข้ามาในร้านของผม
สำหรับพ่อมดแม่มดที่มีความเฉลียวฉลาดและได้รับไม้วอลนัตในการเลือก ไม้กายสิทธิ์ครั้งแรก มีเพียงสองในสิบคนเท่านั้นที่ไม้วอลนัตเลือกเป็นเจ้านายของมัน ไม้นี้มักเหมาะกับผู้ที่ชอบคิดค้นเวทมนตร์ขึ้นมาใช้เองเป็นครั้งแรกแน่นอนว่ารวมไปถึงการเป็นนักประดิษฐ์วัตถุเวทมนตร์ด้วย นี่เป็นไม้ที่เหมาะกับผู้ที่เก่งกาจและมีการปรับตัวเพื่อการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม้วอลนัตเป็นไม้ที่เชื่อฟังและทำตามความต้องการของเจ้านายอย่างตรงไปตรงมาซึ่งต่างไปจากไม้กายสิทธิ์ชนิดอื่นๆที่มักจะต่อต้านเจ้านายหากมีการใช้คาถาที่ผิดไปจากเดิม ไม้วอลนัตจึงให้พลังที่หลักแหลมและน่าทึ่ง แต่ถ้าไปอยู่ในมือของคนที่ไร้ความรับผิดชอบมันก็จะกลายเป็นอาวุธที่อันตรายอยู่ไม่น้อย
วิลโลว์เป็นไม้กายสิทธิ์ที่มีชื่อเสียงในแง่ของการเยียวยารักษา ผมสังเกตว่าคนที่ครอบครองไม้วิลโลว์มักจะมีความไม่มั่นคงที่เก็บซ่อนไว้ภายในซึ่งแทนที่ด้วยความเด็ดเดี่ยวที่แสดงออกมาอย่างแรงกล้า ไม้วิลโลว์มักจะเลือกเจ้านายที่สามารถดึงศักยภาพตนเองออกมาได้สูงสุดมากกว่าจะเลือกคนที่ไม่ใส่ใจในตนเอง อีกทั้งยังเป็นไม้ที่ทรงพลังสูงในการใช้คาถาแบบไร้เสียง จนกลายมาเป็นสำนวนประจำตระกูลของผมว่า “ถ้าอยากไปได้ไกล ให้ไปด้วยวิลโลว์”
ไม้ยูเป็นหนึ่งในไม้กายสิทธิ์ที่หายาก แต่ความต้องการของมันกลับตรงข้ามไปเนื่องจากชื่อเสียงของมันไม่ค่อยดีนักในแง่ของการเป็นไม้ที่ถูกใช้มากในกลุ่มศาสตร์มืด ในบรรดาพ่อมดแม่มดที่ใช้ไม้ยูนี้มักจะถูกดึงดูดหรือชักจูงไปสู่ศาสตร์มืดได้อย่างง่ายดาย ไม้ยูขึ้นชื่อว่าเป็นไม้ที่มอบพลังและความเป็นความตายให้กับเจ้านายได้และเมื่อเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอื่นๆ และมันไม่เคยเลือกเจ้านายที่มีความสามารถเพียงแค่พื้นๆหรือขี้ขลาดเป็นนายของมัน ไม้ยูถูกพูดถึงในแง่ของการใช้คำสาปและเวทมนตร์ศาสตร์มืดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยูเป็นไม้ที่มีอายุยืนยาวและพบในพ่อมดที่เป็นวีรบุรุษน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพ่อมดที่เป็นจอมมารและที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อฝังมันลงไปพร้อมกับเจ้านายของที่เสียชีวิต ไม้ยูสามารถงอกเงยออกมาเป็นต้นไม้ได้อีกครั้งเพื่อที่จะปกป้องหลุมศพของเจ้านายมัน
รายละเอียดต่อไปนี้กล่าวถึงพลังและคุณสมบัติของแกนกลางไม้กายสิทธิ์ทั้งสามชนิดที่ การ์ลิก โอลิแวนเดอร์ เลือกใช้
"...ช่วงแรกที่ทำอาชีพนี้ ผมเห็นพ่อของผมพิถีพิถันเป็นอย่างมากในการเลือกวัตถุดิบมาใช้ทำเป็นแกนกลางไม้กายสิทธิ์
จนกระทั่งถึงเวลาที่ผมต้องรับช่วงต่ออาชีพนี้ ผมได้ถือคติในการเลือกแกนกลางที่ดีที่สุดในการทำไม้กายสิทธิ์เช่นกัน
จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ผมรู้ว่ามีแกนกลางที่ดีที่สุดอยู่เพียงสามชนิดเท่านั้น
ซึ่งไม้กายสิทธิ์ของโอลิแวนเดอร์ต้องมีแกนกลางทั้งสามชนิดนี้อย่างใดอย่างหนึ่งในไม้กายสิทธิ์หนึ่งอัน
ซึ่งประกอบไปด้วย ขนยูนิคอร์น เอ็นหัวใจมังกร และขนนกฟีนิกซ์
ทั้งสามอย่างนี้เป็นวัสดุที่หายากและราคาแพง แต่แน่นอนว่าคุณภาพดีเยี่ยม
มาถึงตรงนี้ผมอยากให้พวกคุณได้รู้ว่า
ไม้กายสิทธิ์จะมีอานุภาพมากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสามประการคือ
ชนิดของไม้ ชนิดของแกนกลาง และประสบการณ์ของตัวเจ้าของไม้เอง
ฉะนั้นแกนกลางจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย..."
เป็นวัสดุที่มีการผสมผสานของเวทมนตร์มากที่สุดและทำให้เกิดความขัดข้องขณะใช้งานน้อยที่สุด ไม้กายสิทธิ์ส่วนใหญ่ที่มีแกนเป็นขนยูนิคอร์นจะเปลี่ยนไปสู่ทางของศาสตร์มืดได้ยากมากและเป็นไม้ที่มีความผูกพันกับเจ้าของคนแรกมากที่สุดแม้ว่ามันจะถูกเปลี่ยนมือไปโดยการขโมยหรือแย่งชิงก็ตามซึ่งต่างจากแกนชนิดอื่นๆ
ข้อเสียของแกนชนิดนี้คือไม้นั้นจะมีพลังอำนาจที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่ากับไม้ที่ใช้แกนชนิดอื่น ถึงแม้ตัวไม้จะเป็นไม้ที่มีอานุภาพมากก็ตามและเมื่อมีการเปลี่ยนมือเจ้าของไปเรื่อยๆ พลังอำนาจของไม้ก็จะค่อยๆตายลงไปตามลำดับที่เปลี่ยนลงไป อาจเรียกได้ว่าไม้เกิดการตรอมใจ
ตามหลักการแล้วนี่เป็นแกนที่มีพลังอานุภาพมากที่สุดและจัดเป็นไม้ที่หรูหรามากที่สุดเช่นกัน ไม้ที่มีแกนเป็นเอ็นหัวใจมังกรจะเรียนรู้คาถาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อไม้ถูกเปลี่ยนมือไปจากเจ้าของเดิม มันจะรับใช้และสวามิภักดิ์กับเจ้านายใหม่อย่างทันที ซึ่งต่างจากแกนขนยูนิคอร์นอย่างสิ้นเชิง
ไม้ที่มีแกนกลางเป็นเอ็นหัวใจมังกรมีแนวโน้มที่จะเข้าไปสู่ศาสตร์มืดได้ง่ายกว่าไม้ชนิดอื่น เพราะมันจะยอมรับทุกวิถีทางที่นายของมันเลือกและมันยังเป็นไม้ที่เกิดความขัดข้องขณะใช้ได้ง่ายที่สุดอีกด้วย
นี่เป็นแกนไม้ที่หาได้ยากที่สุด ขนนกฟีนิกซ์มีพลังอำนาจทางเวทมนตร์สูงสุด แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลานานกว่าคาถาจะแสดงผลมากกว่าแกนแบบขนยูนิคอร์นและเอ็นหัวใจมังกรและมันยังแสดงคุณสมบัติว่ามันสามารถมีความคิดเป็นของตัวเองและแสดงคาถาออกมาเองในบางครั้ง เป็นอีกลักษณะหนึ่งที่พ่อมดแม่มดส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบแกนกลางชนิดนี้
นกฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่สันโดษและรักอิสระ ดังนั้นก็เช่นเดียวกับแกนชนิดนี้ที่เป็นขนของมัน ไม้ประเภทนี้จะเลือกผู้ที่มีศักยภาพอย่างแท้จริงเท่านั้นมาเป็นเจ้านายของมันและยังยากที่มันจะเชื่อฟังเจ้านายของมันเอง พอๆกับความภักดีที่ยากกว่ามันจะมอบให้ แต่ถ้าให้แล้วมันจะไม่มีวันเสื่อมคลาย
รายละเอียดเรื่องความยาวและความยืดหยุ่นของไม้กายสิทธิ์ต่อไปนี้
นำมาจากบันทึกของ การ์ลิก โอลิแวนเดอร์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์
"... ช่างทำไม้กายสิทธิ์ส่วนมากจะเลือกจับคู่ความยาวของไม้กายสิทธิ์อย่างง่ายๆ โดยให้มันมีความยาวเข้ากับขนาดตัวของพ่อมดหรือแม่มดที่ใช้มัน แต่นี่เป็นการวัดแบบหยาบๆ และไม่จริงเสมอไป เพราะยังมีเงื่อนไขสำคัญอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาด้วย จากประสบการณ์ของผม ไม้ที่ยาวอาจเหมาะกับพ่อมดที่มีรูปร่างสูงโปร่ง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะเลือกพ่อมดรูปร่างใหญ่ และบรรดาพ่อมดแม่มดที่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์อย่างกว้างขวางและน่าทึ่ง ไม้กายสิทธิ์ที่ประณีตชอบร่ายคาถาที่ถูกเสกขึ้นมาอย่างสง่างามและพิถีพิถัน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรพิจารณาไม้กายสิทธิ์ในแง่ใดแง่หนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย ชนิดของไม้, แกนกลางและความยืดหยุ่น เป็นสิ่งที่ช่วยถ่วงดุลหรือเพิ่มคุณลักษณะของความยาวไม้กายสิทธิ์ได้
ไม้กายสิทธิ์ส่วนใหญ่มีความยาวอยู่ในช่วง 9 – 14 นิ้ว แต่กระนั้นผมก็เคยขายไม้ที่สั้นกว่านี้ (8 นิ้วหรือน้อยกว่า) และยาวกว่านี้ (มากกว่า 15 นิ้ว) เหมือนกัน ซึ่งบุคคลเหล่านี้พบเจอได้ยากมาก ในกรณีหลัง โดยมากเป็นความผิดปกติทางสรีระของร่างกาย พวกเขาจึงต้องการไม้ที่ยาวกว่าปกติ แต่กระนั้นไม้ที่สั้นกว่าปกติมักจะเลือกพ่อมดแม่มดที่มีลักษณะบางอย่างขาดหายไป มากกว่าจะเป็นลักษณะทางสรีระที่เตี้ยกว่าคนปกติ (พ่อมดแม่มดร่างเล็กส่วนมากมักจะถูกเลือกด้วยไม้ที่มีความยาวมากกว่า)
ความยืดหยุ่นหรือความแข็งแรงของไม้ สื่อถึงระดับของการปรับตัวและความเต็มใจที่จะยอมรับ เมื่อไม้ถูกเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมไปยังเจ้าของคนใหม่ ขอย้ำอีกครั้งว่า ปัจจัยนี้ก็ไม่ควรนำมาพิจารณาแยกจากปัจจัยอื่นๆ คือ ชนิดของไม้, แกนกลางและความยาว รวมทั้งประสบการณ์ของผู้ที่ถือไม้และรูปแบบการใช้เวทมนตร์ ทั้งหมดนี้จะหลอมรวมกันทำให้ไม้กายสิทธิ์ความเป็นเอกลักษณ์ของมันเองในที่สุด... "
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง