ในนิยายแฟนตาซีของมักเกิ้ลหลายเรื่อง การเดินข้างทางข้ามเวลาก็ยังทำได้อย่างจำกัด แม้แต่ในโลกเวทมนตร์ก็ตาม การย้อนเวลาถูกปิดเป็นความลับสุดยอด การศึกษาเรื่องนี้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในกองปริศนาและพบว่าเวทมนตร์สามารถพาคุณย้อนเวลากลับไปได้เพียงระยะสั้นๆเท่านั้น
จากการศึกษาของศาสตราจารย์ ซาอูล ครอกเกอร์ ผู้ซึ่งเสียสละเวลาทั้งชีวิตในการศึกษาเวทมนตร์ของเวลาที่กองปริศนาพบว่า
“การค้นพบของพวกเราเป็นที่แน่ชัดว่า ช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดสำหรับการเดินทางย้อนเวลา โดยไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อการเดินทางและตัวของผู้ย้อนเวลาเองคือประมาณ 5 ชั่วโมง เราสามารถเก็บเวทมนตร์ย้อนเวลาที่ไม่มีความเสถียรและสามารถใช้ได้ไว้ภายในนาฬิกาทรายขนาดเล็ก ซึ่งสามารถนำมันไปสวมรอบคอของพ่อมดหรือแม่มดเพื่อให้พวกเขาหมุนมันได้ตามจำนวนชั่วโมงที่ต้องการย้อนกลับไป
การพยายามย้อนเวลากลับไปมากกว่าเวลาที่เหมาะสมนั้นจะก่อให้เกิดความหายนะอย่างร้ายแรงต่อพ่อมดแม่มดที่ทำเช่นนั้น ไม่มีข้อมูลออกมาเป็นเวลาหลายปีแล้วว่าทำไมคนที่เดินทางย้อนเวลากลับไปนานๆถึงไม่เคยได้กลับมาจากการย้อนเวลาเลย ข้อมูลการศึกษาทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้จนกระทั่งปีค.ศ. 1899 เมื่อ อิลูอิส มินทัมเบิล เดินทางย้อนเวลากลับไปในปี ค.ศ. 1402 และติดอยู่ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลา 5 วัน เราถึงได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
เมื่อเรานำเธอกลับมายังช่วงเวลาปัจจุบันได้ ร่างกายของเธอมีอายุเพิ่มขึ้นถึง 5 ศตวรรษ (500 ปี) ซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ เธอเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซนต์มังโกฯในเวลาต่อมา ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลา 5 วันของเธอในอดีตอันไกลโพ้นได้สร้างความวุ่นวายอย่างมหาศาลต่อบุคคลที่เธอพบเจอ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของบุคคลเหล่านั้นอย่างกระทันหัน ส่งผลให้คนในปัจจุบันกว่า 25 ชีวิตซึ่งเป็นลูกหลานของคนเหล่านั้นหายไปจากในยุคปัจจุบัน เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลให้พวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นมา
สุดท้าย ยังมีอย่างอื่นที่น่าตกใจอีก ช่วงเวลาของวันที่มาดามมินทัมเบิลกลับมาจากอดีตนั้นเกิดความแปรปรวนในตัวของมันเองจากการละเมิดกฎอันร้ายแรงนี้ วันอังคารซึ่งคือวันที่เธอกลับมาปรากฏตัวครั้งสุดท้ายนั้นกินเวลายาวนานถึงสองวันครึ่ง ในขณะที่วันพฤหัสนั้นหดสั้นลงเหลือเพียงแค่ 4 ชั่วโมง กระทรวงเวทมนตร์จึงมีการจัดการที่รัดกุมและครอบคลุมมากขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา กฎหมายและบทลงโทษอย่างเข้มงวดถูกตราขึ้นเพื่อควบคุมการเดินทางข้ามเวลา”
กระทรวงเวทมนตร์จำกัดการใช้เครื่องย้อนเวลาด้วยกฎหมายป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นนับร้อยข้อ ไม่ใช่แค่การย้อนเวลากลับไปนานถึงห้าศตวรรษ การย้อนเวลากลับไปเพียงชั่วโมงเดียวก็สามารถส่งผลกระทบได้อย่างไม่น่าเชื่อและกระทรวงเวทมนตร์ก็ต้องการหลักประกันที่เข้มงวดถ้าจะต้องมีการใช้วัตถุที่หายากและทรงพลังนี้ มันคงเป็นเรื่องประหลาดใจสำหรับชุมชนผู้วิเศษที่จะทราบว่า เครื่องย้อนเวลานั้นมักจะถูกใช้โดยทั่วไปกับปัญหาเล็กๆน้อยๆอย่างการจัดการเรื่องเวลาเท่านั้น มันไม่เคยถูกใช้สำหรับปัญหาที่สำคัญหรือเรื่องใหญ่โต เพราะอย่างที่ซาอูล ครอกเกอร์ได้กล่าวไว้ว่า
“ตราบใดที่จิตใจของมนุษย์ยังไม่เข้าใจเรื่องของเวลา ก็ย่อมไม่เข้าใจความเสียหายที่จะขึ้นตามมาถ้าหากเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกฎของเวลา”
เครื่องย้อนเวลาทั้งหมดที่กระทรวงเก็บรักษาไว้ถูกทำลายลงระหว่างการต่อสู้ที่กองปริศนา ประมาณสามปีหลังจากที่ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องย้อนเวลาได้เครื่องหนึ่งที่ฮอกวอตส์
"... ฉันไปไกลเกินกว่าจะมานั่งกังวลเกี่ยวกับการเดินทางย้อนเวลาในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ นักโทษแห่งอัซคาบัน ซึ่งฉันไม่เคยเสียใจเลย (นักโทษแห่งอัซคาบันเป็นหนึ่งในเล่มที่ฉันชอบที่สุด) ถึงมันจะนำมาซึ่งปัญหาหลายๆอย่างมาให้ฉัน เพราะถ้าพ่อมดสามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แล้วพล็อตเรื่องของฉันในอนาคตจะเป็นยังไง
ฉันแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ตามความพอใจของตนเองในช่วงตอนต่างๆ แรกสุด ฉันให้ดัมเบิลดอร์และเฮอร์ไมโอนี่ย้ำเตือนว่ามันอันตรายแค่ไหนถ้าถูกพบเห็นในอดีตเพื่อเตือนให้ผู้อ่านรู้ว่าอาจมีผลกระทบที่ไม่คาดฝันและอันตรายในช่วงการย้อนเวลากลับไปแก้ปัญหา สอง ฉันให้เฮอร์ไมโอนี่คืนเครื่องย้อนเวลาที่เธอใช้อยู่เพียงเครื่องเดียวที่ฮอกวอตส์ สาม ฉันทำลายเครื่องย้อนเวลาทั้งหมดระหว่างการต่อสู้ที่กองปริศนาเพื่อกำจัดความเป็นไปได้ที่ว่าจะมีใครในอนาคตย้อนเวลากลับมาอีกแม้จะช่วงระยะเวลาสั้นๆก็ตาม
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในการเขียนนิยายประเภทแฟนตาซี จะต้องคอยระวังอยู่เสมอว่าเรื่องราวหนึ่งอาจมีผลกระทบกับอีกเรื่องราวหนึ่งหรือไม่ ในการใช้ประโยชน์จากสิ่งใดก็ตามมักจะมีอุปสรรคอยู่ด้วยเสมอ..."
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง