วันเกิด : 26 มกราคม ค.ศ. 1964
ไม้กายสิทธิ์ : ไม้เชอรี่ แกนเอ็นหัวใจมังกร ยาวเก้านิ้ว บิดงอได้ง่าย
สถานะทางสายเลือด : เลือดผสม
บ้านที่ฮอกวอตส์ : เรเวนคลอ
ครอบครัว : ยังไม่ได้แต่งงาน มีพี่สาวสองคนเป็นมักเกิ้ลทั้งคู่
ความสามารถพิเศษ : คาถาลบความทรงจำอันทรงอานุภาพและเจ้าของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของไข่แดงจากตัวออกคามีซึ่งการันตีว่าช่วยให้ผมสวยเงางาม (แชมพูนี้ดีจริงแต่มีผลข้างเคียงที่อันตรายและใช้ต้นทุนในการผลิตสูง)
งานอดิเรก : เซ็นต์ภาพถ่ายและอวยตัวเอง
รางวัลเกียรติยศ : เหรียญตราแห่งเมอร์ลินขั้นสาม, สมาชิกกิตติมศักดิ์ของสันนิบาตต่อต้านอำนาจมืดและผู้ชนะรางวัลยิ้มมีเสน่ห์ที่สุดจากนิตยสารแม่มดรายสัปดาห์ติดต่อกันถึงห้าครั้ง
พ่อของล็อกฮาร์ทเป็นมักเกิ้ล ส่วนแม่ของเขาเป็นแม่มดและมีพี่สาวสองคน ในบรรดาพี่น้องทั้งสาม ล็อกฮาร์ตเป็นคนเดียวที่มีลักษณะของเวทมนตร์ปรากฎออกมา เมื่อรวมกับความฉลาดและหล่อเหลาทำให้เขากลายเป็นลูกชายคนโปรดของคุณแม่ โดยเฉพาะการที่เขาเป็นพ่อมดเพียงคนเดียวในกลุ่มพี่น้องยิ่งทำให้เขาเริ่มหลงตัวเอง ราวกับเมล็ดของวัชพืชที่กำลังรอวันเติบโต
ฮอกวอตส์ไม่ได้เป็นสถานที่ดังที่ล็อกฮาร์ตและแม่ของเขาคาดฝันไว้ เพราะเมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางนักเรียนที่ล้วนแต่เป็นลูกหลานผู้วิเศษเหมือนกัน และดูเหมือนว่าจะมีหลายคนที่เก่งกว่าล็อกฮาร์ตทั้งนั้น (เขาเคยวาดฝันว่าก้าวแรกของเขาฮอกวอตส์นั้นจะเหมือนกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อเขาเดินลงมาจากหอพักเรเวนคลอ ลัดเลาะไปตามระเบียงแล้วจะมีแต่เสียงกระซิบกระซาบด้วยความตื่นเต้นถึงชื่อของเขา เรื่องเหล่านี้เป็นเพียงแค่ความฝันของล็อกฮาร์ตที่ไม่เคยเป็นจริง) ล็อกฮาร์ตเคยเชื่อมั่นว่าตนนั้นมีความเป็นวีรบุรุษอย่างเพียบพร้อม ก่อนที่เขาจะต้องผิดหวังอย่างที่สุดเมื่อเขาพบว่าชื่อของเขาไม่เป็นที่รู้จักเลยสักนิดเดียวและทักษะทางเวทมนตร์ของเขาก็ไม่มีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แถมยังไม่มีใครชอบทรงผมที่โบกพลิ้วเงางามของเขาเลยสักคน
แต่ก็ใช่ว่าล็อกฮาร์ตจะไม่มีความสามารถอะไรเลย อาจารย์ส่วนใหญ่ต่างรู้ดีว่าเด็กคนนี้มีแววเฉลียวฉลาด และมีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่ภายใน - ถ้าเขาหมั่นฝึกฝนตัวเองให้มากกว่าที่เขาเอาเวลาส่วนใหญ่ไปคุยโวกับเพื่อนๆในชั้นเรียนถึงความใฝ่ฝันของเขา - เด็กคนนี้จะเป็นพ่อมดอีกคนหนึ่งที่มีความสามารถไม่น้อยหน้าใครๆเลย (ล็อกฮาร์ตมักจะบอกกับทุกคน - ที่ยอมรับฟังเขา - ว่าจะประดิษฐ์ศิลาอาถรรพ์ให้สำเร็จก่อนจบจากโรงเรียน จะเป็นกัปตันทีมควิดดิชทีมชาติของอังกฤษแล้วจะเอาด้วยเวิลด์คัพมาให้ได้ และปิดท้ายด้วยการบอกว่าเขาจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ที่อายุน้อยที่สุดคนแรกในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ)
จากการถูกคัดสรรไปอยู่บ้านเรเวนคลอ ล็อกฮาร์ตจึงมีผลการเรียนที่ดีอยู่สม่ำเสมอ แต่นิสัยของเขากลับทำให้เขาไม่เป็นที่ชื่นชอบของใคร โดยเฉพาะถ้าเขาไม่ได้เป็นที่หนึ่งหรือดาวเด่นในเรื่องใด เขาก็จะไม่ยอมเข้าไปมีส่วนร่วมเลย ตลอดเวลาเรียน เขาใฝ่หาและคอยคิดค้นแต่สูตรและวิธีลัด โดยไม่ได้มองที่คุณค่าของเนื้อหาวิชาที่กำลังศึกษาเล่าเรียน เขาสนใจเพียงแต่ว่าทำอย่างไรให้ตนเองได้เป็นจุดเด่น เขาโหยหารางวัลและโล่เกียรติยศจนถึงขั้นไปกดดันอาจารย์ใหญ่ให้ริเริ่มการทำวารสารประจำโรงเรียน เพียงเพราะต้องการได้เห็นชื่อและภาพถ่ายของตนเองอยู่บนหน้าปกวารสาร
ล็อกฮาร์ตจึงไม่เคยโด่งดังหรือมีชื่อเสียง แต่เขากลับถูกจดจำในฐานะเด็กที่เอาแต่เรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลา เขาเคยลูกลงโทษกักบริเวณเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพราะใช้คาถาเสกกระดาษให้ยาวยี่สิบฟุตซึ่งเต็มไปด้วยลายเซ็นต์ของตนเองให้ปลิวว่อนไปทั่วสนามแข่งควิดดิช เขาเคยเสกภาพขนาดใหญ่ของตนเองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเลียนแบบตรามาร และส่งการ์ดวาเลนไทน์จำนวนแปดร้อยใบให้กับตัวเอง จนเป็นเหตุให้นกฮูกฝูงใหญ่เข้ามาในห้องโถงกลางจนการรับประทานอาหารเช้าในวันนั้นต้องถูกยกเลิกไป เพราะมีแต่ขนและขี้ของนกฮูกกระจายอยู่เต็มชามข้าวโอ้ต
การจบการศึกษาของล็อกฮาร์ต นำมาซึ่งความโล่งใจของบรรดาอาจารย์และเจ้าหน้าที่ฮอกวอตส์ และมีข่าวแว่วมาว่าล็อกฮาร์ตได้งานในต่างประเทศ ซึ่งมันทำให้เขามีชื่อเสียงและเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง บรรดาอาจารย์ที่เคยสอนเขาต่างเริ่มคิดว่าพวกเขามองเด็กคนนี้ผิดไป เพราะศิษย์คนนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางเวทมนตร์และความกล้าหาญจากวีรกรรมที่เขาไปพานพบเจอมา ในการกำจัดสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายชนิดต่างๆ
หากแต่ความเป็นจริงคือ ล็อกฮาร์ตได้พบเป้าหมายในชีวิตของเขาแล้วในที่สุด เขากล่อมตนเองว่า แท้จริงแล้วตนนั้นเป็นพ่อมดที่ฉลาดและมีความสามารถ เพียงแต่ขี้เกียจไปหน่อยเท่านั้นเอง เขาจึงตัดสินใจที่จะฝึกฝนทักษะเดียวของเขาที่มีอยู่ให้ก้าวหน้าไปยิ่งกว่าทักษะอื่นใด นั่นคือการใช้คาถาลบความทรงจำที่ทรงอานุภาพ และด้วยความชำนาญในการใช้คาถานี้ เขาจึงสามารถการรวบรวมวีรกรรมและผลงานของพ่อมดแม่มดที่เก่งกาจได้จำนวนมาก หลังจากฟังเรื่องราววีรกรรมเหล่านั้นเสร็จสิ้นแล้วเขาจึงฉวยโอกาสลบความทรงจำของวีรบุรุษและวีรสตรีเหล่านั้น แล้วนำเรื่องราวที่เขาได้รับฟังมาเขียนเป็นหนังสือโดยสวมรอยว่าตัวเขาเองเป็นผู้สร้างวีรกรรมทั้งหลายเหล่านั้นเอง
สิ่งนี้ทำให้ล็อกฮาร์ตเป็นเจ้าของตำแหน่งสุดยอดนักเขียนที่มียอดขายหนังสือดีที่สุด เจ้าของผลงานอัตชีวประวัติของตนเองหลายต่อหลายเล่มและเป็นที่รู้จักในฐานะนักป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอันดับต้นๆ ของโลกหลังจากจบจากฮอกวอตส์ไปเพียงแค่สิบปีเท่านั้น และนั่นทำให้เขาได้มาซึ่งรางวัลเกียรติยศอย่างเหรียญตราแห่งเมอร์ลินขั้นสามและได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ประจำสันนิบาตต่อต้านอำนาจมืด และด้วยความหล่อของเขาที่ไม่เคยแม้แต่จะมีรอยขีดข่วนถึงแม้ว่าต้องเผชิญกับสัตว์ร้ายอย่างมนุษย์หมาป่า ผีแบนชี โทรลล์ภูเขา ฯลฯ ก็ทำให้เขาชนะรางวัลยิ้มที่มีเสน่ห์ที่สุดจากนิตยสารแม่มดรายสัปดาห์ติดต่อกันถึงห้าครั้งด้วยกัน
อาจารย์หลายคนต่างสงสัยว่าทำไม อัลบัส ดัมเบิลดอร์ถึงตัดสินใจเชิญ กิลเดอรอยด์ ล็อกฮาร์ตกลับมายังฮอกวอตส์ในตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด นอกจากความเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครมายอมสอนในตำแหน่งนี้ (จากข่าวลือที่ว่าตำแหน่งนี้มีอาถรรพ์นั้นแพร่ออกไปทั่วทั้งโลกผู้วิเศษ) บรรดาอาจารย์ต่างยังคงจำวีรกรรมที่น่าปวดหัวของล็อกฮาร์ตได้ไม่ลืม ถึงแม้ตอนหลังเขาจะมีประวัติที่ดีขึ้นก็ตาม
ความจริงแล้ว อัลบัส ดัมเบิลดอร์วางอีกแผนหนึ่งซ่อนไว้โดยไม่มีใครคาดคิด เนื่องจากในบรรดาพ่อมดที่ล็อกฮาร์ตไปแอบอ้างเอาวีรกรรมมานั้นดันมีอยู่สองคนซึ่งเป็นคนที่ดัมเบิลดอร์รู้จักและทำให้อาจารย์ใหญ่เชื่อว่าเขาเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่รู้เบื้องหลังวีรกรรมทั้งหมดทั้งมวลของล็อกฮาร์ตและควรอย่างยิ่งที่จะจับเขามาไว้ในโรงเรียนเพื่อให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่าจริงๆแล้วนี่มันก็แค่วีรบุรุษจอมลวงโลกคนหนึ่งเท่านั้นเอง เมื่อศาสตราจารย์มักกอนนากัลทราบเรื่อง เธอเอ่ยถามกับดัมเบิลดอร์ว่าแล้วนักเรียนจะได้อะไรจากเจ้าคนที่ลวงโลกและเอาแต่เรียกร้องความสนใจอย่างคนนี้ ดัมเบิลดอร์ตอบว่า “มีอะไรให้เรียนรู้มากมาย แม้แต่จากครูที่แย่ที่สุด สิ่งที่นักเรียนจะได้เรียนรู้คืออะไรที่ไม่ควรทำและอะไรที่ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง”
ล็อกฮาร์ตเองในตอนแรกก็ไม่ได้อยากกลับมาสอนที่ฮอกวอตส์เท่าใดนัก เพราะในช่วงเวลานั้นเขากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นกับผลงานวีรกรรมแอบอ้างของตนเอง หากดัมเบิลดอร์ไม่ไปเป่าหูที่สนใจแต่ชื่อเสียงของเขาโดยการพูดเป็นนัยๆถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ว่าจะไม่เอาเด็กชายผู้รอดชีวิตคนนี้มาสะสมในเส้นทางแห่งชื่อเสียงของตนเองบ้างหรือและดัมเบิลดอร์ก็คิดถูก ล็อกฮาร์ตย่อมไม่พลาดเหยื่อชิ้นนี้และตอบตกลงในเวลาอันรวดเร็ว (ซึ่งวิธีนี้ดัมเบิลดอร์ก็ใช้อีกในสี่ปีต่อมาเพื่อจูงใจให้อาจารย์อีกคนหนึ่งกลับมาสอนที่ฮอกวอตส์)
เมื่อกลับสู่ฮอกวอตส์ ล็อกฮาร์ตก็พบว่าทักษะทางเวทมนตร์ของเขาที่เคยแหลมคมก็เลวร้ายลงจนเกินเยียวยาเสียแล้ว เหลือเพียงคาถาเพียงบทเดียวคือคาถาลบความทรงจำที่เขาใช้ได้ดีเพราะเขาใช้มันอยู่ซ้ำๆ เรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การสอนหนังสือของเขากลายเป็นการเล่าวีรกรรมของตนเอง ในเวลาไม่นานนักเรียนก็ประจักษ์ชัดว่าแท้จริงแล้วเขามันแค่วีรบุรุษลวงโลกน่าโง่คนหนึ่ง
ในช่วงปลายปีการศึกษาที่เขาสอนที่ฮอกวอตส์ เกิดอุบัติเหตุที่ทำร้ายล็อกฮาร์ตจนหมดสภาพอย่างสิ้นเชิง เมื่อคาถาลบความทรงจำซึ่งถูกเสกด้วยไม้กายสิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์สะท้อนกลับใส่ตัวเขาเองและลบความทรงจำของเขาเองในอดีตทั้งหมดปัจจุบันล็อกฮาร์ตก็ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องพักผู้ป่วยห้องเจนัส ทิกกี้ ที่โรงพยาบาลวิเศษเซนต์มังโกเพื่อผู้ป่วยและบาดเจ็บ
“ชื่อของกิลเดอรอยด์ ล็อกฮาร์ตฉันไม่ได้คิดเองแต่แรก ฉันขอยอมรับกับพวกคุณตามตรงว่าฉันนำสองชื่อนี้มาจากชื่อของใครบางคนที่มีอยู่แล้ว นามสกุลล็อกฮาร์ตฉันนำมาจากชื่อจริงของบุคคลหนึ่งที่ถูกสลักไว้บนอนุสาวรีย์รำลึกสงคราม ตอนนั้นฉันกำลังมองหานามสกุลแบบสก็อตที่ดูน่าหลงไหลและขนลุกในเวลาเดียวกัน แล้วตาฉันก็ไปสะดุดกับชื่อล็อกฮาร์ทเข้าเต็มๆ
จากนั้น คืนหนึ่ง ฉันมองหาชื่อแบบคริสเตียนในหนังสือ Dictionary of Phrase and Fable แล้วก็ไปสะดุดตากับชื่อกิลเดอรอยด์ ซึ่งแปลว่าโจรปล้นนักเดินทางเข้า ซึ่งเมื่อรวมกับคำว่าล็อกฮาร์ตก็เหมาะที่จะเป็นคนขี้โกงที่รูปลักษณ์ภายนอกดูดีเอามากๆ"
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง