“คนข้ามเพศ คือ คนที่บอกว่าเขาอยากจะเป็น และควรที่จะได้ใช้ชีวิตตามใจชอบโดยไม่ต้องมีคนอื่นๆ มาตั้งข้อสงสัยหรือมาบอกว่าพวกเขาไม่ใช่อย่างที่ตัวพวกเขาคิดว่าเป็น ฉันอยากให้คนข้ามเพศทุกคนที่ติดตามฉันได้รู้ไว้ ฉันและอีกหลายคนทั่วโลกมองเห็นคุณ ให้เกียรติคุณ และรักคุณในแบบที่คุณอยากจะเป็น – ฉันบริจาคให้กับ Mermaid และ Mamacash มาบอกเพื่อพวกคุณอยากจะร่วมบริจาคด้วยนะ Happy #PRIDE2020 ส่งความรักมาให้ X ”
11 มิถุนายน 2020 – Emma Watson ทวิตเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนคนข้ามเพศ
การแสดงจุดยืนสนับสนุนคนข้ามเพศของเอ็มม่าในวันนั้น เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสที่กำลังโจมตี เจ.เค.โรว์ลิงอย่างหนัก หลังจากเธอออกมาทวิตแสดงจุดยืนเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2020 ...
“ถ้าเพศ(กำเนิด)ไม่มีอยู่จริง งั้นก็ไม่มีคำว่ารักเพศเดียวกัน ถ้าเพศไม่มีจริง ตัวตนของผู้หญิงทั้งโลกก็จะถูกลบออกไปด้วย ฉันรักคนข้ามเพศนะ แต่การลบแนวคิดที่ว่าเพศกำเนิดไม่มีอยู่จริงก็จะทำให้คุณค่าในชีวิตของใครหลายๆ คนต้องถูกลืมไปด้วย มันไม่ใช่ความเกลียดชังนะ มันคือการพูดความจริง
ความคิดที่ว่าผู้หญิงแบบฉัน - ซึ่งเห็นใจคนข้ามเพศมาหลายสิบปี รู้สึกเข้าอกเข้าใจเพราะพวกเธออ่อนไหวเช่นเดียวกันกับผู้หญิง เช่น เรื่องความรุนแรงจากผู้ชาย - กลับถูกมองว่าเกลียดคนข้ามเพศเพียงเพราะพวกเราคิดว่าเพศกำเนิดมีจริงและมีผลกระทบตามมา – เป็นเรื่องไร้สาะ
ฉันเคารพสิทธิของคนข้ามเพศทุกอย่าง พวกเขาที่มีสิทธิจะใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายตามที่ต้องการ ฉันจะร่วมเดินไปกับพวกคุณ หากเผชิญกับการแบ่งแยกหรือถูกเลือกปฏิบัติเพราะเป็นคนข้ามเพศ ควบคู่ไปกับชีวิตฉัน ที่เติบโตมาในฐานะผู้หญิง และฉันไม่เชื่อว่านี่เป็นความเกลียดชังนะ”
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เอ็มม่า แต่รวมไปถึงเหล่านักแสดงนำในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้งแดเนียล แรดคลิฟท์ / อีวานน่า ลินซ์ / บอนนี่ ไรท์ รวมทั้งพระเอกภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์อย่าง เอ็ดดี้ เรดเมย์น (และคนอื่นๆ อีกบางส่วน) – ท่ามกลางกระแสในตอนนั้นที่กำลังรุมถล่ม เจ.เค.โรว์ลิงอย่างหนัก จึงแทบไม่มีใครสนใจเลยว่ายังมีความคิดเห็นและข้อกังวลอีกด้านหนึ่งได้ถูกส่งไปหาเอ็มม่า วัตสันด้วย – โดยเฉพาะการที่เธอทวิตประกาศว่าได้บริจาคเงินให้องค์กรสนับสนุนสิทธิคนข้ามเพศอย่าง Mermaid และ Mamacash และผมจะขอเล่าถึงองค์กร Mermaid ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนกลุ่มเยาวชนข้ามเพศในสหราชอาณาจักร ภายใต้สโลแกน #ProtectTransKids
หลักการขององค์กร Mermaid นั้นฟังแล้วดูดีมากในเบื้องต้น พวกเขาต้องการปกป้องและสนับสนุนกลุ่มเยาวชนข้ามเพศให้ได้รับการยอมรับ แต่เหรียญมันมีสองด้านเสมอ และดูเหมือนเอ็มม่า วัตสันจะไม่รู้ความจริงอีกด้าน ว่าองค์กรนี้กำลังถูกตั้งคำถาม จากกลุ่มผู้ปกครองของเยาวชน รวมทั้งครู หมอ นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ - ซึ่งหลายคนได้เข้าไป comment ในทวิตของเธอ หลายคนแสดงความกังวลว่านี่อาจเป็นการเลือกบริจาคที่ผิดพลาดของเธอหรือเปล่า
แต่แน่นอนว่า.. ด้วยกระแสที่กำลังพุ่งเป้าถล่มป้าโจอย่างหนักในตอนนั้น ความเห็นต่างๆ เหล่านี้ได้ถูกมองข้ามไปโดยสิ้นเชิง
แล้วเวลาก็ผ่านเลยไป... จนมาถึงปี 2022
ราวๆ ช่วงปลายเดือนกันยายน 2022 - ความอื้อฉาวขององค์กร Mermaid ก็เริ่มปรากฏให้เห็นประจักษ์ชัด
เมื่อองค์กรถูกร้องเรียนจากกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชนว่าลูกๆ ของพวกเขาถูกสมาชิกขององค์กร Mermaid พยายามหลอกล่อให้ใช้ยายับยั้งการเจริญพันธุ์ (Puberty Blocker) และมีเด็กผู้หญิงอายุ 13 ปีคนหนึ่ง ถูกชักจูงให้เข้ารับการผ่าตัดหน้าอก เพื่อเตรียมข้ามเพศไปเป็นเด็กผู้ชาย โดยการกระทำทั้งหมดนี้ไม่ได้รับการเห็นชอบจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองก่อน
พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จึงเกิดกระแสกดดันไปยังรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนองค์กร Mermaid ทันที (องค์กรนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย ซึ่งก็คือภาษีของชาวอังกฤษนั่นล่ะ) – นักวิจารณ์ นักข่าวและคอลัมภ์นิสต์บางคนได้ออกมาให้ความเห็นว่า
“ประธาน Mermaid เคยชี้แจงกับศาลว่าไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ประจำในองค์กร แต่พวกเขากลับให้คำแนะนำทางการแพทย์ที่อันตรายกับกลุ่มเยาวชนผู้เปราะบาง ฉันหวังว่าคนและกลุ่มคนที่สนับสนุน Mermaid ควรจะละอายใจบ้างนะ ว่าคุณกำลังส่งเสริมการบ่อนทำลายเด็กและเยาวชน โดยปล่อยให้พวกเขาถูกแนะนำโดยกลุ่มคนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอะไรเลย”
Sonia Sodha : หัวหน้านักเขียนคอลัมภ์นิสต์ประจำ The Guardian
ซึ่ง ป้าโจได้มาทวิตแสดงความเห็นของเธอต่อท้ายในเรื่องนี้ด้วยว่า
“นี่ยังไม่ได้รวมไปถึงองค์กร บริษัทและเหล่าคนดังที่ไม่ยอมตรวจสอบความน่าเชื่อถือขององค์กรนี้ก่อนด้วยนะ”
แน่นอนว่าการที่ป้าทวิตแบบนี้... ใครที่ได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ได้อ่านแล้วย่อมจะเชื่อมโยงไปหาเอ็มม่า วัตสันแน่นอน – แต่ก็ไม่มีสื่อออนไลน์ไหนเอาทวิตนี้ของป้าโจไปเขียนข่าว – แต่ถ้าคุณสังเกตจะมีชาวเน็ตบางคนเอาทวิตนั้นของโรว์ลิงไปแท็กหา เอ็มม่าอยู่ดี
แต่ว่า...
ความวัวยังไม่ทันหาย.. ความควายก็เข้ามาแทรกอีกทันที
ต้นเดือนตุลาคม 2022 – Trustee (ผู้ดูแลทรัพย์สิน) ขององค์กร Mermaid ประกาศลาออกหลังจากถูกจับได้ว่าเคยเข้าร่วมประชุมวิชาการเมื่อปี 2011 และเขาพยายามนำเสนองานว่าภาวะใคร่เด็ก (paedophilia) นั้นอาจเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ – เขาเขียนในบทความวิชาการในเชิงว่าหากภาวะใคร่เด็กเกิดจากบาดแผลทางจิตใจ ก็ควรจะทำความเข้าใจและยอมรับ หรือไม่เช่นนั้นก็ควรหาทางป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น
แน่นอนว่าป้าโจมาทวิตข่าวนี้ด้วย
(เรียกได้ว่าเหมือนการตอบโต้ฝั่งแอนตี้โดยนัย)
“บอกฉันอีกครั้งซิว่าการที่ผู้ปกครอง ครู แพทย์ นักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญและสมาชิกของกลุ่มสิทธิเกย์ที่เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับองค์กร Mermaid ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะพวกเขาเหยียดเพศและตื่นตระหนกกันไปเองอยู่อีกไหม”
“มาถึงตอนนี้เราได้เห็นกันแล้วนะว่า Mermaid ได้แต่งตั้งผู้ดูแลทรัพย์สินซึ่งเป็นพวกใคร่เด็กและสมาชิกออนไลน์ของพวกเขาก็ได้พยายามชักจูงเด็กๆ ไปเจอกับประสบการณ์ทางเพศที่อื้อฉาว และนี่ดันเป็นองค์กรการกุศลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสหราชอาณาจักร
พวกเขาคงไม่สามารถมาถึงจุดได้ถ้าไม่รับเงินสนับสนุน ทั้งจากองค์กร สาธารณะและเหล่าคนดัง ที่ถึงแม้จะมีสัญญาณอันตรายปรากฏให้เห็นอยู่แต่แรกแล้วก็ตาม เรียกได้ว่า Mermaid แทบจะมีบทบาทไปในทุกภาคส่วนขององค์กรและคนดังต่างๆ เหล่านี้
พวกเขาได้รับอนุญาตเข้าไปในห้องเรียน และเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์ให้กับเยาวชนโดยที่พวกเขาไม่ใช่และไม่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ในทีม และเรายังได้พบว่าพวกเขาพยายามจัดการให้มีการผ่าตัดหน้าอกให้เด็กผู้หญิงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
ดังนั้นฉันคิดว่าตอนนี้เสียงโทรศัพท์น่าจะดังไปทั่วทั้งองค์กรและเหล่าคนดังพวกนั้นนะ แต่เท่าที่ดูพวกเขาก็ยังคงนิ่งเฉยกับอันตรายที่เกิดขึ้น ฉะนั้นความเห็นใจของฉันตอนนี้น่าจะแค่ปลายนิ้วเท่านั้น”
แม้ป้าโจจะไม่ได้ระบุเจาะจงเฉพาะว่าคนดังเหล่านั้นเป็นใครบ้าง แต่แน่นอนว่าการที่ป้าออกมาทวิตแบบนี้ คนที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างละเอียด (เช่นผม) หนึ่งในคนที่จะเชื่อมโยงไปหา ย่อมมี Emma Watson อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่จนถึงบัดนี้ Emma ก็ยังไม่ออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้หรือให้ความเห็นอะไรในประเด็นนี้นะครับ - เพราะ ประการแรก เอ็มม่าประกาศว่าเธอจะลดการใช้ social media ให้น้อยลงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021 และทวิตเตอร์ของเธอมีการเคลื่อนไหวล่าสุดก็เดือนเมษายน 2022 (แต่เธอยังคงอัพ IG อยู่เรื่อยๆ นะ) คือ เอ็มม่ารู้เรื่องที่เกิดนี้แล้วหรือยังผมเองก็ยังไม่อาจตอบได้
ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังนี้ ผมไม่ได้จะชี้นำให้ทุกคนรุ่มต่อว่า ด่าทอหรือสาดความเกลียดชังใส่เอ็มม่า วัตสันนะครับ แต่อยากเอามาแชร์ว่า การที่พวก woke ชอบยกเอาความเห็นของเหล่านักแสดงหลักในแฮร์รี่ทั้ง 3 คนมาเป็นตัวอ้างอิงว่าป้าโจเป็นทรานส์โฟบนั้น ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่ (อันนี้แล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณากันนะครับ) แต่ผมได้บทเรียนและข้อคิดที่สำคัญมากในการค้นคว้าเรื่องนี้คือ
ความเห็นของดาราหรือนักแสดงไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด และการที่คนบางกลุ่มชอบโหนความเห็นจากนักแสดงพวกนี้ สำหรับผมไม่ได้ทำให้การโต้แย้งมีน้ำหนักหรือน่าเชื่อถือเลย โดยเฉพาะเมื่อเราได้ลองค้นหาข้อมูลอีกด้านอย่างลึกซึ้ง คุณอาจพบว่าความเห็นของนักแสดงนั้นมัน “ตื้นเขิน” มาก ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อคู่โต้แย้งของคุณเป็นนักเขียนพันล้านอย่างโรว์ลิง ผู้ซึ่งเวลาออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์ทีไร ต้องทำให้คนที่เกลียดหรือแอนตี้จุกอกกลับไปแทบทุกคราว
ปล.1 องค์กร Mermaid ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนจาก Charity Commission แห่งอังกฤษและเวลส์ (การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปและองค์กร Mermaid ยังไม่ได้ถูกระงับการดำเนินงาน)
ปล.2 เรื่องวุ่นๆ ของเหล่านักแสดงที่ออกมา criticized ป้าโจยังไม่หมดแค่นี้ นี่แค่ตอนแรก..
เรียบเรียงบทความโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง
ติดตามกันได้ที่เพจ https://www.facebook.com/potterdiarythaifan