“เจ้าคนบ้าบิ่นยิ่งกว่าเจ้างั่งที่ถูกขังอยู่ในกล่องของฟวูปเปอร์” ชาลี เบเวอร์สต็อก ผู้จัดการทีมนิวซีแลนด์ระเบิดอารมณ์ตนเองหลังจากที่เดนนิส มูน ลูกทีมของเขาถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่หนึ่งร้อยหก การสูญเสียนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นิวซีแลนด์พ่ายแพ้แก่บัลแกเรียด้วยคะแนนสี่ร้อยสิบต่อหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแต้มอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งทุกคนในสนามต่างเห็นพ้องกันว่า “สมควรโดนแล้ว”
การชนกันกลางอากาศของเชสเซอร์ทั้งสองทีมระหว่างมูนและโบโกมิล เลฟกี้ บังเอิญเกิดขึ้นในทุกๆ บริเวณของสนามจนบ่อยเกินไป แต่กระนั้นผู้ตัดสินจอร์จิโอ เซนาคิส ก็มองออกว่าการชนของมูนนั้นเกิดขึ้นอย่างจงใจ และไม่มีใครรู้ว่าเซนาคิสนั้นได้ยินข่าวลือที่ว่ามูนและและเลฟกี้นั้นเคืองแค้นต่อกันมาอย่างยาวนั้นหรือไม่ แต่การตัดสินของเขาก็พลิกเกมให้บัลแกเรียได้เปรียบขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย
การันตีด้วยตำแหน่งทีมรองชนะเลิศถึงสองครั้งในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมา ทีมบัลแกเรียยังคงแสดงฝีมือซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการถล่มทีมกีวี่ที่แข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม เลฟสกี้และวันชานอลฟ์สองนักกีฬาของบัลแกเรีย พ่อของทั้งสองเคยเป็นนักกีฬาควิดดิชและได้เข้าร่วมเวิลด์คัพเมื่อปี 1994 ปีเดียวกันกับที่มีการเปิดตัววิกเตอร์ ครัมในวัยสิบแปดปีแก่ชาวโลก หนึ่งในพาดหัวข่าวใหญ่ของเวิลด์คัพปีนี้คือการกลับสู่สนามอีกครั้งหลังการเกษียณตัวเองของวิกเตอร์ ครัมในวัยสามสิบแปดปี เขาได้กลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในการแข่งเวิลด์คัพนี้ และถึงแม้เขาจะต้องเจอกับกระแสวิจารณ์ที่รุนแรงในประเด็นที่ว่าเข้ามาแย่งตำแหน่งกับผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า เพียงเพื่อต้องการ “สร้างกระแสความเห็นใจ” แต่ฝีมือการจับลูกสนิชของเขาที่ตัดหน้า งาโป โพนิกา ซีกเกอร์ของนิวซีแลนด์วัยยี่สิบเอ็ดปี ก็แสดงถึงความเฉียบแหลมและเก๋าเกมของเขา ทำให้กองเชียร์ทีมบัลแกเรียดีใจกันถ้วนหน้า
บัลแกเรียจะพบกับนอร์เวย์ คู่แข่งที่ฝีมือสูสีกันในรอบสี่ทีมสุดท้าย
แปลไทยและเรียบเรียงโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง
ติดตามกันได้ที่เพจ https://www.facebook.com/potterdiarythaifan