เอ็มม่า วัตสัน กล่าวว่า ยังเคารพรัก เจ.เค.โรว์ลิง แต่ดูเหมือนโจจะไม่อินด้วย

Watson กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่ทำให้ฉันเสียใจที่สุดก็คือ ไม่เคยมีการพูดคุยกันเลยตั้งแต่ต้น” เมื่อ Shetty ถามว่า เธอยังเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยกับโรว์ลิ่งอยู่หรือไม่ Watson ตอบว่า “ใช่ และฉันจะเปิดกว้างเสมอ ฉันเชื่อในสิ่งนั้นจริงๆ เชื่ออย่างสุดหัวใจ”

โดยสรุปที่ผมจับใจความได้คือ

◾️แม้เธอจะเห็นต่างจาก JK ในเรื่องสิทธิคนข้ามเพศ แต่ เธอก็ยังหวงแหนและซาบซึ้งในประสบการณ์ส่วนตัว ที่เคยมีร่วมกันสมัยถ่ายทำ Harry Potter 

◾️เธอไม่อยากให้ “ความเห็นทางสังคม/การเมือง” มาลบล้าง “ความทรงจำส่วนตัว” ที่ดีงามเหล่านั้น

◾️เธอเชื่อว่ามันไม่จำเป็นต้อง “เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง” ระหว่าง รัก JK ในฐานะคนที่เคยทำงานด้วย กับ ไม่เห็นด้วยกับความคิดเรื่องทรานส์ — ทั้งสองความจริงนี้อยู่ร่วมกันได้

◾️ ลึกๆ แล้ว เธออยากให้คนที่ไม่เห็นด้วยกับเธอ (เช่น JK หรือแฟนๆ ที่เข้าข้าง JK) ยังรักเธอได้ และในทางกลับกัน เธอก็อยากจะยังรักคนที่ไม่เห็นด้วยกับเธอ

สรุปสั้นๆ Watson กำลังบอกว่า “ฉันยังรักและเคารพโจในฐานะคนที่ฉันเคยร่วมประสบการณ์ชีวิตด้วย ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเธอ และฉันก็หวังว่าจะไม่ต้องตัดขาดกันเพียงเพราะความเห็นต่าง”

แต่ขอบอกตรงๆ นะ สำหรับผม เธอตอบเพื่อเซฟตัวเองโดยไม่แตะใจกลางของปัญหาเลยแม้แต่นิดเดียว ดูจากการตอบของเธอยิ่งสะท้อนชัดว่าจนถึงบัดนี้ เธอ (รวมทั้งเพื่อนพระเอกของเธอ) ยังไม่ได้อ่านบทความที่ป้าโจเขียนไว้เมื่อปี 2020 แน่นอน

เธอมองแค่ว่า นี่เป็นความขัดแย้งที่เกิดจากความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน  แม้ J.K.Rowling จะออกมาย้ำหลายรอบแล้วว่า  "เห็นต่างไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ที่ฉันไม่ให้อภัย เพราะพวกคุณส่งเสริมการแปลงเพศในเยาวชน" สิ่งที่ J.K.Rowling พูดมาตลอดคือ ความกังวลของเธอที่มีต่อกลุ่ม trans activists  โดยเฉพาะประเด็นที่มีผลต่อเยาวชนกับสิทธิของเด็กและผู้หญิง 

แต่ในการสัมภาษณ์นี้ Watson ไม่แตะเรื่องนี้เลย  เธอเลี่ยงไปพูดในเชิง “ความสัมพันธ์ส่วนตัว” มากกว่า ทำนองว่า "เสียใจที่ไม่ได้คุยกัน, อยากเก็บความทรงจำดีๆ เอาไว้, ไม่อยากให้ความเห็นต่างทำลายมิตรภาพ" เหมือนมาเล่นบทโศกว่า “เรามีความเห็นไม่ตรงกัน น่าเศร้านะที่แตกหัก” แต่ไม่ได้หันไปมองเลยว่าประเด็นที่ JK ออกมาพูดจนโดนแฟนคลับของเธอรุมถล่มใส่นั้นคือเรื่องอะไร

เธอเองที่เคยโดเนทเงินให้องค์กร Mermaid : องค์กรที่พยายามล่อลวงเยาวชนให้เข้าสู่กระบวนการแปลงเพศ แทนที่จะโฟกัสกับปัญหาภาวะสุขภาพจิตของเด็ก แถมยังแอบส่งยาบล็อกฮอร์โมนลับหลังพ่อแม่เด็กอีก 

การสัมภาษณ์นี้ สำหรับผม มีข้อดีอย่างเดียวคือ เธอพยายามตอบแบบประนีประนอม ไม่ฟาดงวงฟาดงาแบบตาแดน เป็นการตอบที่ดูปลอดภัย แต่ปัญหาที่แท้จริง กลับถูก "เตะถ่วง" ออกไปข้างทาง 

โพสต์ที่ J.K Roeling ตอบโต้สมาคมศิลปะนั้น บอกตรงๆ ว่าแรงทุกดอก และในโพสต์นั้นมีวรรคหนึ่งที่ป้าโจแกฟาดอย่างดุเดือด คือ

"ถ้าจะหาว่าฉันขาดความเห็นใจแบบผู้หญิงที่ดีงามก็เอาเถอะ แต่ฉันพบว่าความเสียหายที่พวกเขามีส่วนร่วมสนับสนุนและ บางคนถึงกับออกหน้าหรืออัดฉีดเงินทุน --- ให้เกิดการทดลองการแพทย์ที่ไร้การควบคุมกับผู้เยาว์—มันทำให้น้ำตาฉันเหือดแห้งไปตั้งแต่ต้นทางแล้ว"

ไปนั่งย้อนอ่านดูและเชื่อมโยงมาหาโพสต์นี้ ถึงกับต้องซี๊ดปากเบาๆ นี่เชื่อจริงๆ ว่าป้าโจคงนั่งฟังที่ Emma ให้สัมภาษณ์ใน Podcast แล้วแน่นอน และดูเหมือน J.K Roeling ยังคงยืนกรานคำเดิมที่ว่า 

"เก็บคำขอโทษให้กับคนที่ได้รับผลกระทบจากการสนับสนุนอุดมการณ์เพศสภาพอันบ้าคลั่งของคุณนี้ ไปให้กับเด็กที่เปราะบางดีกว่า"

ถึงบอกไงว่าที่ Emma ให้สัมภาษณ์ไปน่ะ (เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ JK นะ) คือการ "เตะถ่วง" ปัญหา เธอเอาแต่พูดเรื่องความสัมพันธ์กับป้าโจเหมือนพยายามจะหาทางประนีประนอม  แต่มันไม่มีประโยชน์หรอก ตราบใดถ้าเธอยังไม่กล้า "แตะ" ไปที่ต้นตอของเรื่องทั้งหมด ที่ตอนนี้กลายมาเป็นบ่วงรัดคอเธอเรียบร้อยแล้ว

เรื่องการส่งเสริมการแปลงเพศในผู้เยาว์ของ Emma (รวมทั้งพวกเซเลปคนอื่นๆ ด้วยนะ) มันเป็นความอื้อฉาวทางการแพทย์ในรอบศตวรรษจริงๆ