ไม่มีบทสัมภาษณ์ของ เจ.เค.โรว์ลิงในตอนนี้ Megan Phelps-Roper ได้เชิญคนข้ามเพศ 2 คนมาสัมภาษณ์ - ซึ่งเธอต้องพยายามเฟ้นหาอย่างหนัก เพราะ คนข้ามเพศส่วนใหญ่ที่ Megan ติดต่อไปต่างปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในรายการนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากแชร์การสัมภาษณ์ร่วมกับ transphobe อย่าง เจ.เค.โรว์ลิง
ก่อนจะอ่านต่อไป - ผม (แอดมิน) ขอสารภาพกับทุกท่านว่าตอนนี้ เป็นตอนที่ถอดความและจับใจความค่อนข้างยาก เพราะผมต้องใช้ Skill Listening ล้วนๆ แม้จะพยายามใช้ app ช่วยถอดเสียงและแปลออกมาเป็นข้อความเพื่อช่วย re-check ก็ยังต้องยอมรับว่า “ค่อนข้างปวดหัว” เพราะผู้สัมภาษณ์บางคนพูดวนไปวนมา และเหมือนจะตอบคำถามไม่ค่อยตรงประเด็นกับคำถามจากพิธีกรสักเท่าไร
คนแรกคือ Natalie Wyne หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Contrapoints หญิงข้ามเพศชาวอเมริกันและเป็น YouTuber ชื่อดัง
🍷นาตาลีระบุเพศสภาพตนเองว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ (transwomen) เธอเล่าให้ฟังว่าเคยประสบกับภาวะความทุกข์ใจจากเพศสภาพที่ขัดแย้งกับเพศโดยกำเนิด (gender dysphoria) และเริ่มกระบวนการข้ามเพศจากการศึกษาข้อมูลบนโลกออนไลน์ เธอเริ่มซื้อฮอร์โมนมาทาน โดยไม่ได้ปรึกษาผู้บำบัดหรือจิตแพทย์มาก่อน เธอเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าและเสริมหน้าอกเพื่อให้ดูเหมือนผู้หญิง (แต่เธอยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ)
🍷เธอยอมรับว่าการคุกคามทางเพศนั้นผิดกฏหมายแน่นอน เธอเองก็กังวลว่าจะถูกคุกคามทางเพศ ถ้าหากเข้าไปให้ห้องน้ำชาย แต่นาตาลีก็บ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึงประเด็นที่ว่า ทำอย่างไรจะแยก transwomen ออกจากพวกชายผู้ล่า ที่อาจสวมรอยว่าเป็น transwomen แล้วไปก่ออาชญากรรมหรือการคุกคามทางเพศในห้องน้ำหญิง
🍷พิธีกร (Megan) ถามว่านาตาลีคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการระบุตัวตนของแต่ละคน - นาตาลีให้ความเห็นว่า มันไม่ได้แปลว่าผู้คนต้องโชว์บัตรประชาชนก่อนเข้าห้องน้ำหรอก มันแค่เป็นเรื่องการทลายโครงสร้างของสังคมเดิมแล้วให้ผู้คนมีสิทธิระบุเพศของตัวเอง แล้วผู้หญิงก็แค่อยากตั้งคำถามเมื่อเจอบางคนที่อาจจะเข้าห้องน้ำผิดห้อง –
สรุปคือนาตาลีมองว่าการเข้าห้องน้ำควรอิงจากเพศสภาพภายนอกนั่นเอง (อืมมมม...)
🍷เรื่องการส่งเสริมให้เด็กเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ นาตาลีให้ความเห็นว่า เด็กๆ ควรมีสิทธิได้รับยายับยั้งการเจริญพันธุ์ (Puberty blocker) เผื่อว่าพวกเขาต้องการข้ามเพศ และเด็กอายุ 18 ปีควรมีความคิดพอที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองว่าควรจะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศดีหรือไม่ เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า “คุณคิดว่านักต่อมไร้ท่อวิทยาจะซ่อนอยู่ตามสนามเด็กเล่น เพื่อพร้อมจะทำการข้ามเพศให้กับเด็กคนไหนก็ตามที่เล่นของเล่นผิดประเภทงั้นเหรอ บ้าบอสิ้นดี”
🍷นาตาลีไม่เห็นด้วยกับ เจ.เค.โรว์ลิง - คลิปในช่อง YouTube ของเขาเป็นสิ่งยืนยันที่ชัดเจน – เธอไม่สนับสนุนการใช้คำพูดคุกคามทางเพศและขู่ฆ่าโรว์ลิง แต่เธอก็มองว่า “นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้” พร้อมกับให้เหตุผลว่า “เพราะคนข้ามเพศส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจพอที่จะต่อรองอะไร”
เธอยังบอกด้วยว่า เจ.เค.โรว์ลิงไม่ควรออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะเธอเป็นคนดังและมีชื่อเสียง (นาตาลีคิดว่าโรว์ลิงใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชนจากความรวยในการออกมาต่อต้านกลุ่มคนข้ามเพศ) พร้อมกับมองว่าโรว์ลิงไม่มีความเห็นใจและไม่พยายามจะทำความเข้าใจกลุ่มคนข้ามเพศ นั่นเป็นความเกลียดชังรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ได้ด่าออกมาตรงๆ เธอเรียกมันว่า การแสดงความเกลียดชังทางอ้อม
ส่วนอื่นๆ ที่เหลือในการสัมภาษณ์ ผมไม่ขอหยิบมาเล่าละกัน เพราะมีแต่ part อารมณ์ล้วนๆ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่านาตาลีตอบไม่ตรงประเด็นตามที่พิธีกร (Megan) ถามเลย คำอธิบายของเธอค่อนข้างวกวนและยิงไม่ตรงคำถามที่โรว์ลิงออกมาพูด และเธอพยายามดึงดราม่าตลอดการสัมภาษณ์ เช่น “พวกเรากำลังหวาดกลัว” “ไม่มีใครเข้าใจพวกเรา” “เธอไม่ควรออกมาพูดเลย” “เธอทำพวกเราเจ็บปวด” “เธอเคยเป็นไอดอลของฉัน...”
นาตาลีปิดการสนทนาด้วย “ฉันเหนื่อยแล้ว.. ทำไมพวกคุณต้องมาให้ฉันพูดเรื่องพวกนี้ด้วยนะ”
คนที่สองคือ Noah ชายข้ามเพศชาวอเมริกัน อายุ 17 ปีที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดข้ามเพศมาเมื่อสามเดือนที่แล้ว - Noah เล่าประสบการณ์และความรู้สึกของเขาเองที่ผ่านกระบวนการข้ามเพศเมื่ออายุ 16 ปี เขาไม่ได้กล่าวถึงโรว์ลิงเลยแม้แต่น้อย
แต่ฟังแล้วผมกลับพบว่าโนอาห์นี่ล่ะคือเคสตัวอย่างที่โรว์ลิงออกมาแสดงความกังวล เกี่ยวกับการข้ามเพศแบบกระทันหันโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน
🥤โนอาห์รู้สึกว่าช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ เป็นช่วงที่เลวร้ายของชีวิตจากปัญหารอบตัว เขาไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ก่อนจะได้พบกับ Influencer ซึ่งเป็นคนข้ามเพศมากมายบนโลกออนไลน์ และแนะนำให้เขาไปหานักบำบัด ก่อนที่โนอาห์จะพบว่าเขาต้องการข้ามเพศ – แต่เขาไม่เคยถูกวินิจฉัยโดยจิตแพทย์ว่าประสบกับภาวะความทุกข์ใจจากเพศสภาพที่ขัดแย้งกับเพศโดยกำเนิด (gender dysphoria)
🥤แม้ครอบครัวจะท้วงติง แต่โนอาห์ยืนยันและบอกว่าหากต้องรอจนอายุ 18 แล้วค่อยผ่าตัดแปลงเพศ เขาอาจฆ่าตัวตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว
🥤โนอาห์ทราบและตระหนักดีถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาจากการผ่าตัดแปลงเพศและการบำบัดด้วยฮอร์โมน แต่ตอนนี้หลังจากผ่าตัดแปลงเพศแล้ว เขารู้สึกเยี่ยมมาก (ย้ำว่าเขาอายุ 17 ปี และเพิ่งจะผ่านการผ่าตัดแปลงเพศมาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว)
🥤ผมรู้สึกว่าโนอาห์ชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อพิธีกร (Megan) เล่าให้ฟังถึงความสับสนที่คาดว่าน่าจะเป็นในลักษณะเดียวกันกับโนอาห์ซึ่งเธอเคยประสบพบเจอเมื่อช่วงอายุเดียวกับโนอาห์ตอนนี้ (เริ่มแตกเนื้อสาว) - และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความแปรปรวนทางอารมณ์
โดยสรุปคือ ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับ เจ.เค.โรว์ลิง โดยตรง ดังนั้นผมจึงไม่ขอลงเนื้อหาฉบับเต็ม ส่วนหนึ่งยอมรับว่ายากในการถอดความจากเทปสัมภาษณ์โดยตรง บทความที่ผ่านมานอกจากฟังแล้วผมมีสคริปต์จาก The Rowling Library ช่วยในการติดตามอีกทีด้วยว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่า
แต่สำหรับตอนนี้บอกเลยว่ายากมากจริงๆ ครับ - นั่งฟังอยู่ 3 วัน ไม่รู้กี่รอบ ดูความเห็นต่างๆ บนเว็บบอร์ดออนไลน์ว่าเราเข้าใจถูกไหม เลยตกตะกอนออกมาเป็นดังที่เขียน
แต่ยังไงทุกท่านลองไปฟังดูกันได้นะ ผมอาจจะตีความข้างบนผิดไปบางจุดก็เป็นได้
... จบ ตอนที่ 6 ...
<< ---- อ่านตอนก่อนหน้า : Episode 5 ทวิต
ถอดบทสัมภาษณ์โดยเว็บไซต์ The Rowling Library
ติดตามเรื่องราวซีรีส์ The Witch Trials of J.K. Rowling ได้ทาง Podcast นี้
เรียบเรียงบทความโดยโดย Shootty แอดมินเพจพอตเตอร์ไดอารี่
หากนำบทความออกไปโปรดอ้างอิงเว็บไซต์และผู้เรียบเรียง
ติดตามกันได้ที่เพจ https://www.facebook.com/potterdiarythaifan